โควิดพ่นพิษกิจการ ‘สหรัฐ’ ปิดตัวถาวร 60%
เว็บไซต์ดังสหรัฐ เผย กิจการในประเทศราว 60% ทยอยปิดถาวร เป็นผลจากมาตรการควบคุมแพร่ระบาด และข้อจำกัดท้องถิ่น ตั้งขึ้นสกัดโควิด-19
เว็บไซต์เยลป์สหรัฐ เปิดเผยว่า ตัวเลขสำรวจกิจการราว 60% ของสหรัฐที่ปิดตัวลงไป ถือเป็นการปิดกิจการแบบถาวร หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐอย่างหนัก
“ขณะที่ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ยังเพิ่มขึ้น และข้อจำกัดท้องถิ่นยังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในหลายรัฐ ซึ่งพบว่า มีกิจการที่ปิดทำการทั้งแบบถาวรและชั่วคราวเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ โดยในจำนวนนี้เป็นการปิดถาวรมากถึง 60%” เว็บไซต์เยลป์กล่าวในรายงานค่าเฉลี่ยทางเศรษฐกิจ (Economic Average Report) ฉบับล่าสุด
รายงานระบุว่าเมื่อนับถึงวันที่ 31 ส.ค. กิจการของสหรัฐ บนเว็บไซต์เยลป์ รวม 163,735 ราย ได้ปิดตัวลงเนื่องจากการระบาดใหญ่ เพิ่มขึ้น 23% นับตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. และในจำนวนนี้ปิดถาวร 97,966 ราย อุตสาหกรรมร้านอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด โดยมีร้านอาหารปิดกิจการรวม 32,109 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้เป็นร้านที่ปิดถาวรมากถึง 61%
รายงานชี้ให้เห็นว่ารัฐฮาวาย แคลิฟอร์เนีย และเนวาดา มีการปิดตัวของกิจการทั้งแบบชั่วคราวและถาวรมากที่สุดจากทั่วประเทศ ทั้งยังเป็น 3 รัฐที่มีอัตราการว่างงานสูงสุดเช่นกัน
แม้ว่าการปิดกิจการที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอันเปราะบางของสหรัฐ แต่รัฐบาลและฝ่ายนิติบัญญัติของรัฐสภาสหรัฐ ยังคงไม่สามารถประกาศใช้มาตรการบรรเทาทุกข์จากโรคโควิด-19 ขั้นต่อไป
ด้านเจโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เผยว่าสหรัฐ จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมากกำลังประสบปัญหา และรัฐบาลประจำรัฐและท้องถิ่นกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ทางการเงินที่เลวร้าย
อย่างไรก็ตาม ประธานเฟดมองว่า สหรัฐต้องใช้เวลาสักพักในการฟื้นระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงานให้กลับไปเท่ากับช่วงต้นปี และอาจต้องได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากทั้งนโยบายด้านการเงินและการคลังเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น