UNHCR มอบที่พักพิงชั่วคราวผู้ลี้ภัยโมรีอา

นายฟิลิปป์ เลอคลาร์ค ผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศกรีซ เผยว่า 

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เร่งยกระดับการรับมืออย่างเร่งด่วนเพื่อให้ทันต่อความต้องการของผู้ขอลี้ภัยราว 11,000 คน ที่ขาดที่พักพิงบนเกาะเลสบอสของประเทศกรีซ หลังเหตุเพลิงไหม้ที่ศูนย์ลงทะเบียนและเอกลักษณ์บุคคลโมรีอา (RIC) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

จากคำขอของรัฐบาล UNHCR ช่วยจัดตั้งสถานที่กางเต็นท์พักพิงชั่วคราวเพื่อมอบความคุ้มครองแก่ผู้ที่ตกอยู่ในความเสี่ยงสูงและให้คำแนะนำเฉพาะทาง พร้อมแบ่งปันประสบการณ์การทำงานในการจัดสรรพื้นที่และวางแผนงาน

เพื่อป้องกันและบรรเทาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผู้ขอลี้ภัยต้องผ่านการตรวจคัดกรองเบื้องต้นเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสและภูมิคุ้มกันจากหน่วยงานสาธารณสุขของประเทศก่อนเข้าพื้นที่แห่งใหม่นี้

UNHCR ยังร่วมสนับสนุนหน่วยงานสาธารณสุขของประเทศในการจัดตั้งพื้นที่ทางการแพทย์ในพื้นที่พักพิงใหม่นี้ตามมาตรการขององค์การอนามัยโลก โดยมอบเต็นท์ 3 หลัง อุปกรณ์จัดตั้งเต็นท์ฉุกเฉินขนาดใหญ่ และรั้วกั้นส่วนพื้นที่คัดแยก

ทีม UNHCR และพันธมิตรด้านมนุษยธรรมในประเทศยังคงพยายามระบุตัวตนและช่วยผู้ขอลี้ภัยกลุ่มเปราะบาง รวมถึงครอบครัวที่มีเด็กเล็กและหญิงเดี่ยว พร้อมให้ข้อมูลพวกเขาเกี่ยวกับที่พักอาศัยในพื้นที่พักพิงชั่วคราวที่เปิดใหม่ มีผู้หญิงและผู้ที่รอดจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศราว 50 คนได้ถูกย้ายไปที่พักที่ปลอดภัยบนเกาะแล้ว

และตามที่ คณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศใช้ข้อตกลงด้านการอพยพและลี้ภัยใหม่ล่วงหน้าในวันที่ 23 ก.ย. ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเหตุการณ์ในเกาะเลสบอสครั้งนี้ และความต้องการที่เร่งด่วนในการรับมือร่วมกันจากกลุ่มประเทศยุโรป

UNHCR เห็นว่าข้อตกลงด้านการอพยพและลี้ภัยใหม่นี้เป็นการเริ่มต้นของสหภาพยุโรปและประเทศสมาชิกที่จะปกป้องผู้ลี้ภัยและสร้างความมั่นใจในการจัดการระบบผู้ขอลี้ภัยร่วมของยุโรป (Common European Asylum System) ให้อยู่บนพื้นฐานของความยุติธรรมและเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการการขอลี้ภัย การร่วมกันอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว และการแบ่งเบาหน้าที่ความรับผิดชอบระหว่างประเทศ และหวังว่าแต่ละประเทศจะใช้โอกาสนี้เป็นจุดเริ่มต้น

ร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตผู้ขอลี้ภัยที่ได้รับผลกระทบบนเกาะเลสบอสได้ที่ https://www.unhcr.or.th/donate/moria-fire-emergency