เปิดเส้นทาง 'โนอึล' กระทบไทยอย่างละเอียด

จนถึงตอนนี้ พายุโนอึลได้เคลื่อนตัวเข้ายังประเทศไทย โดยส่งผลทำให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก และหนักมาก โดยเฉพาะบริเวณที่พายุเคลื่อนตัวผ่าน

นายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG กล่าวว่าพายุโซนร้อนโนอึล ได้ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคอิสานตอนกลาง และภาคอิสานตอนล่าง มีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 200 ม.ม.ต่อวัน (ถึงเวลา 03.00 น. เช้าวันที่ 19 กันยายน 2563) ที่จังหวัดอุบลราชธานี สุรินทร์ และเพชรบูรณ์ และ มีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 150 ม.ม.ต่อวัน ที่จังหวัดยโสธร บุรีรัมย์ และนครราชสีมา

โดยเมื่อเช้ามืดของวันที่ 19 กันยายน 2563 (ประมาณ 03.00 น.) พายุโซนร้อนโนอึล ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นแล้ว

หลังจากนี้ พายุดีเปรสชั่นโนอึล จะเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกของประเทศ ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ใกล้เคียงที่เคลื่อนที่ผ่านไป ได้แก่

ช่วงเช้าของวันที่ 19 กันยายน จังหวัด พิษณุโลก ชัยภูมิ(บัวใหญ่) นครราชสีมา(โนนสูง ด่านขุนทด) เพชรบูรณ์(หนองไผ่ วิเชียรบุรี) นครสวรรค์(เมือง หนองบัว ชุมแสง) ชัยนาท(ช่องแค) ลพบุรี อุทัยธานี(เมือง บ้านไร่) กำแพงเพชร ตาก(อุ้มผาง พบพระ แม่สอด) และ พื้นที่ใกล้เคียง

ช่วงบ่ายของวันที่ 19 กันยายน 2563 ตาก (อุ้มผาง พบพระ แม่สอด) และพื้นที่ใกล้เคียง

ก่อนที่ช่วงค่ำของวันที่ 19 กันยายน 2563 พายุโนอึลจะออกจากประเทศไทย ไปถึงเมืองเมาะลำไย ประเทศพม่า

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 20 กันยายน 2563 ด้วยอิทธิพลของพายุเอง ยังคงทำให้มีฝนตกมากที่ เชียงใหม่ (เชียงดาว แม่แตง แม่ริม หางดง สันป่าตอง จอมทอง ฮอด แม่แจ่ม) สำพูน(ลี้) และ ลำปาง(ห้างฉัตร) และพื้นที่ใกล้เคียงอยู่