ตลาดขนมไทย-อาเซียนโตสูง 'ว้อนท์ ว้อนท์' แบรนด์ไต้หวันร่วมชิงมาร์เก็ตแชร์

นางสาว เจียง หลง ซวน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ว้อนท์ ว้อนท์ คอร์ปอเรชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด เผยว่า ว้อทน์ ว้อนท์ กรุ๊ป ก่อตั้งมายาวนานกว่า 50 ปี เป็นผู้ผลิตขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มหลากรสที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน ครอบคลุมตลาดทั่วทั้งทวีปเอเซีย ทวีปแอฟริกา ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปอเมริกาใต้ ทวีปยุโรป และทวีปออสเตรเลีย มีมูลค่าแบรนด์สูงถึง 937 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน 20 แบรนด์ต่างประเทศชั้นนำในไต้หวัน โดยครองอันดับ 3 ติดต่อกัน 9 ปี 

โดยในปีนี้บริษัทได้วางแผนในการขยายสู่ประเทศที่มีโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจสูง เช่น หลายประเทศในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะปักหมุดให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง ทั้งนี้ หากมองจากโอกาสทางธุรกิจแล้ว ว้อนท์ ว้อนท์ถือว่ายังเป็นน้องใหม่ในตลาดอาเซียน จึงทำให้มีโอกาสทางการตลาดมากยิ่งขึ้น เพราะหลังจากกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ได้ผนวกเป็นหนึ่งเดียว เมื่อปี 2559 ส่งผลทำให้มีจำนวนประชากรรวมมากกว่า 622 ล้านคน และมี GDP รวมสูงถึง 87 ล้านล้านบาท ซึ่งทำให้อาเซียนกลายเป็นเขตเศรษฐกิจที่ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก จากขนาดเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ และจำนวนประชากรที่หลากหลายจำนวนมาก ซึ่งทำให้อาเซียนกลายเป็นหนึ่งในศูนย์รวมของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดของโลกด้วยเช่นกัน ผู้ที่สนใจข้อมูล ว้อนท์ ว้อนท์ ประเทศไทย สามารถคิลก https://vtgo.in/wwTHPR09 

สำหรับกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัทนั้น จะเน้นสร้างความแตกต่างด้วยการจำหน่ายขนมให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศนอกจากยึดมั่นในความอร่อย และคุณภาพที่เป็นเลิศแล้ว ทางบริษัทฯ ยังได้เลือกผลิตภัณฑ์ตามความชอบและพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยด้วย ผลิตภัณฑ์ชุดแรกที่จะยกทัพมาเปิดตัวคือลูกอมนม หวานเย็น (Frozen) และเครื่องดื่มต่าง ๆ และมั่นใจว่าต้องทำให้คนไทยหลงรัก Frozen อย่างน้อยทาน Frozen หนึ่งแท่งต่อวัน ต้องทำให้ผลิตภัณฑ์ว้อนท์ ว้อนท์ เข้าไปเป็นเพื่อนร่วมมิตรชิดตู้เย็นของทุกครัวเรือน การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์คือ ผู้ใหญ่กินได้ เด็กกินดี ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายอายุตั้งแต่ 6 ถึง 40 ปี และตั้งเป้าหมายในอนาคตหวังว่าชาวไทยอายุตั้งแต่ 3 ถึง 80 ปี จะตกหลุมรักว้อนท์ ว้อนท์กันทั้งหมด”

ภายในปีนี้ว้อนท์ ว้อนท์วางแผนทยอยเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดไทยอย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มเปิดตัวด้วยสินค้าตัวแรก Milky Toffy (มิลค์กี้ ทอฟฟี่) ลูกอมนม ซึ่งจะวางขายภายในเดือนตุลาคม 2563 นี้ พร้อมตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 30 ล้านบาทในการเปิดตัวขายในไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 ส่วนในด้านกลยุทธ์การตลาด จะใช้วิธี “บุกเบิกด้วยวิธีท้องถิ่น” คือนอกจากจะบุกตลาดในเขตกรุงเทพฯ แล้ว ก็จะบุกไปยังตลาดที่มีกำลังซื้ออย่างภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ รวมถึงพื้นที่ในเขตต่างจังหวัดอื่น ๆ ด้วย 

นอกจากนี้ว้อนท์ ว้อนท์ ยังมุ่งเป้าเจาะตลาดสินค้าสำหรับการทำบุญ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่รู้จักกันทุกครัวเรือนในตลาดคนเชื้อสายจีน  และยังเป็นสินค้าทำบุญหรือไหว้เจ้าตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในไต้หวัน หากมีกิจกรรมไหว้เจ้าที่ใดก็จะเห็นว้อนท์ ว้อนท์ที่นั่น จึงเหมาะกับตลาดประเทศไทยเที่ป็นเมืองพุทธ นอกจากจะมีพิธีทำบุญขอพรแบบไทยแล้ว ในไทยยังมีคนเชื้อสายจีนจำนวนมากที่ยังทำพิธีไหว้เจ้าตามธรรมเนียมปฏิบัติเดิมอยู่  ซึ่งในร้านสะดวกซื้อของไทยตอนนี้ สามารถมองเห็นสินค้าไหว้สารทจีนได้ทั่วไป แสดงว่าตลาดมีความต้องการสินค้าประเภทนี้อยู่ และสินค้าของว้อนท์ ว้อนท์ก็เป็นตัวเลือกสินค้าใหม่ที่ดีที่สุด”

ทั้งนี้ บริษัท ว้อนท์ ว้อนท์ กรุ๊ปก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2505 เดิมมีชื่อว่า I Lan Foods Industrial Co. , Ltd. เป็นผู้ผลิตขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มหลากรสที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงตั้งแต่อุตสาหกรรมอาหารไปจนถึงสื่อ การเงิน ร้านอาหาร การรักษาพยาบาล และอื่น ๆ ครอบคลุมตลาดทั่วทั้งทวีปเอเซีย ทวีปแอฟริกา ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปอเมริกาใต้ ทวีปยุโรป และทวีปออสเตรเลีย โดยมีมูลค่าแบรนด์สูงถึง 937 ล้านดอลล่าร์สหรัฐในปี 2561 และได้รับรางวัล Taiwan Global Brands Award 11 ปีติดต่อกัน