ก.ล.ต.เปิดช่องเจ้าหนี้หุ้นกู้ ‘การบินไทย’ ยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้
สำนักงานก.ล.ต.เปิดรับเจ้าหนี้รายย่อยหุ้นกู้ “การบินไทย” ยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ตั้งแต่วันนี้ถึงไม่เกินวันที่ 2 พ.ย.63 หลังพบมีเจ้าหนี้รายย่อยกว่า 2,140 ราย คิดเป็นมูลค่ากว่า 7,586 ล้านบาท ฟากกรมบังคับคดี เผยมีผู้ยื่นคำร้องฯแล้วกว่า 922 ราย
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่าวานนี้ (23 ก.ย.2563) สำนักงานก.ล.ต.ได้เปิดโต๊ะให้ผู้ลงทุนหรือเจ้าหนี้หุ้นกู้เฉพาะบุคคลธรรมดา (รายย่อย) ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้เป็นวันแรก เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ลงทุน ซึ่งเบื้องต้นมีผู้ที่มายื่นคำร้องฯแล้วบางส่วน โดยคาดว่าจะเปิดให้ยื่นเรื่องดังกล่าวได้ถึงวันที่ 2 พ.ย. 2563นี้
ทั้งนี้ข้อมูลปัจจุบันพบว่าบริษัทการบินไทยมีมูลหนี้หุ้นกู้ทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 71,608 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดมูลหนี้หุ้นกู้ของรายย่อยจำนวน 2,140 ราย หรือคิดเป็นมูลค่าราว 7,586 ล้านบาท ขณะที่เหลือเป็นส่วนของนิติบุคคลหรือสหกรณ์ราว 64,022 ล้านบาท ขณะที่การเปิดศูนย์กลางในการยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้หุ้นกู้ของการบินไทยในส่วนของผู้ลงทุนรายย่อยนั้นจะมี 3 จุด (จากทั้งหมด 4 จุด) ได้แก่ 1.ที่สำนักงาน ก.ล.ต.,2.สำนักงานใหญ่บริษัทการบินไทย และ3.กรมบังคับคดี ส่วนที่ชุมนุมสหกรณ์จะเปิดให้ยื่นคำร้องฯเฉพาะของกลุ่มสหกรณ์เท่านั้น
นางภัทรภร เวชรังษี ผู้อำนวยการกองฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ กรมบังคับคดี กล่าวว่าสำหรับขั้นตอนการยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้หู้นกู้ของบุคคลธรรมดานั้น ปัจจุบัน ณ วันที่ 22 ก.ย.2563 มีผู้ยื่นคำร้องฯแล้วจำนวน 922 ราย หรือคิดเป็นมูลหนี้ประมาณ 1,277 ล้านบาท ซึ่งมีการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ (www.LED.go.th) นับตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยภายหลังจากที่มีการกำหนดปิดการยื่นคำร้องฯในวันที่ 2 พ.ย.2563 ขั้นตอนต่อไปจากนั้นอีก 14 วันกรมบังคับคดีจะเปิดโอกาสให้เจ้าหนี้,ลูกหนี้ และผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการฯได้มีสิทธิเข้าไปตรวจสอบคำขอรับชำระหนี้ที่มีการยื่นเข้ามาได้ และหากมีความประสงค์ที่ต้องการจะโต้แย้งจะต้องทำคำโต้แย้งส่งต่อให้กับพนักงานเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ (จพท.) ภายในไม่เกินวันที่ 16 พ.ย. 2563
โดยหากไม่มีผู้ที่โต้แย้งและเอกสารหลักฐานครบถ้วน เจ้าหน้าที่พนักงานพิทักษ์ทรัพย์อาจจะพิจารณาและมีคำสั่งให้ได้รับชำระหนี้เต็มตามจำนวนที่เจ้าหนี้ร้องขอมาได้ทันที แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าเอกสารครบถ้วนและมูลหนี้ถูกต้อง แต่ถ้าหากมีการยื่นคำโต้แย้งจะต้องมีหมายนัดสอบสวนไปยังทุกฝ่ายให้นำพยานหลักฐานมาพิจารณาเพื่อสอบสวน ซึ่งระยะเวลาการไต่สวนก็อาจขึ้นอยู่กับความยากง่ายของประเด็น เพราะบางคดีอาจจะต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมีสืบสวนความถูกต้อง แต่ยืนยันว่ากระบวนการพิจารณาทั้งหมดต้องเร่งรีบให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ขณะที่หลังจากวันที่ 16 พ.ย. 2563 ผู้จัดทำแผนการฟื้นฟูกิจการของการบินไทย จะต้องยื่นแผนฟื้นฟูต่อศาลล้มละลายกลาง ภายในระยะเวลา 30วันและขอขยายระยะเวลาการจัดทำแผนได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 1 เดือน ซึ่งคาดว่าจะครบกำหนดภายในวันที่ 2 ม.ค.2564 หรืออย่างช้าไม่เกินวันที่ 2 มี.ค.2564 อย่างไรก็ดีหลังจากเจ้าหนี้ได้รับแผนฟื้นฟูฯแล้วและไม่เห็นด้วยกับการจัดกลุ่มเจ้าหนี้ก็จะมีสิทธิไปยื่นคัดค้านได้ที่ศาลล้มละลายกลางภายใน 7 วันนับจากวันที่ได้รับเอกสาร แต่ถ้าจะคัดค้านประเด็นอื่นๆที่ไม่ใช่การจัดกลุ่มเจ้าหนี้ ผู้คัดค้านจะต้องขอแก้ไขแผนการฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ก่อนการประชุมเจ้าหนี้ไม่น้อยกว่า 3 วัน
นอกจากนี้กรมบังคดีจะนัดประชุมเจ้าหนี้ไม่เกินพ.ค.2564 หรือภายใน 2 เดือนนับจากวันที่ผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการยื่นแผนฯ เพื่อโหวตว่าจะรับแผนการฟื้นฟูกิจการหรือไม่ ซึ่งหากรับมีการรับรองแผนก็จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ส่วนการชำระหนี้จะเกิดขึ้นหลังจากการประชุมแผนการฟื้นฟูกิจการ อย่างไรก็ตามมองว่าการฟื้นฟูกิจการของการบินไทยครั้งนี้ถือเป็นกรณีที่ใหญ่สุดในประเทศไทยนับตั้งแต่มีกฏหมายการฟื้นฟูกิจการเมื่อปี 2541 ทั้งในแง่ของจำนวนเจ้าหนี้และมูลหนี้