บอร์ด อคส.สั่งระงับซื้อขาย 'ถุงมือยาง' แสนล้าน

บอร์ด อคส.สั่งระงับซื้อขาย 'ถุงมือยาง' แสนล้าน

ที่ประชุมบอร์ด อคส.ใช้เวลา 6  ชั่ว โมง ถกปมทุริตจัดซื้อถุงมือยางแสนล้านบาท สั่งระงับสัญญาไว้ก่อน ให้ผู้อำนวยการ อคส.ดำเนินการตามกฎหมาย เปิดข้อมูล 5 บริษัทไทยซื้อถุงมือยางจาก อคส.ไม่มีหลักประกันสัญญาการซื้อขาย

นายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธาน กรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.)  หรือ บอร์ด อคส.เปิดเผยภายหลังการประชุมเพื่อพิจารณากรณีพ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง อคส.ใช้อำนาจในการจัดซื้อจัดจ้างถุงมือยางมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท โดยไม่ผ่านบอร์ด อคส.และอาจเข้าข่ายพัวพันกับการทุจริต ว่า  ที่ประชุมมีมติระงับการดำเนินการทั้งปวงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายถุงมือยาง แสนล้าน

พร้อมให้ผู้อำนวยการ อคส.ตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายและระเบียบข้อปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้มติของบอร์ด อคส.จะเป็นการยกเลิกสัญญาการจัดซื้อระหว่าง อคส.กับบริษัท การ์เดียน โกลฟส์ หรือไม่นั้น ไม่สามารถตอบได้เพราะไม่ใช้นักกฎหมาย แต่มติบอร์ดให้ระงับการดำเนินการทั้งปวง

     160103788415            

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมบอร์ด อคส.ในครั้งนี้ได้ใช้เวลาการพิจารณากว่า  6  ชั่วโมง ซึ่งการพิจารณาเป็นไปความตึงเครียด เนื่องจากต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้บริษัท การ์เดียน โกลฟส์ ดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากอคส. หากอคส.ยกเลิกหรือระงับสัญญา ซึ่งอคส.ได้มีจัดซื้อถุงมือยาง ปริมาณ 500 ล้านกล่องมูลค่า 1.12 แสนล้านบาท โดยมีการวางเงินมัดจำแล้ว 2,000 ล้านบาท แต่ภายหลังพบว่า การดำเนินการไม่ถูกต้อง จึงต้องการให้มีการระงับเนื่องจากมองว่ามีผลกระทบต่อองค์กร

            

 

 

  

ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลนิติบุคล 7 บริษัท ที่ทำสัญญาสั่งซื้อถุงมืยางจากองค์การคลังสินค้า(อคส.)พบว่า 5 ใน 7บริษัท เป็นนิติบุคคลไทย ได้แก่ 1.บริษัท 24 คลีนเอเนอร์จี้  โดยมีการจดทะเบียนธุรกิจเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2558 มีมูลค่าทุนจดทะเบียนมูลค่า 5 ล้านบาท มีกรรมการผู้ลงนาม ประกอบด้วย1.นางเพ็ญพัฒน์ โดเกล 2.นายแอนเดล โยรก์โดเกล ซึ่งจดทะเบียนประเภทธุรกิจผลิตเครื่องและอุปกรณ์ในทางการแทพย์(ยกเว้นทันตกรรม) โดยเสนอซื้อถุงมือยางจาก อคส. 225 บาทต่อกล่อง มูลค่าสัญญารวม 11,700 ล้านบาท

2.บริษัท ไทยสไมล์เทรด จดทะเบียน ธุรกิจวันที่ 17 ต.ค 2560 ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท มีกรรมการผู้ลงนาม คือ นางฉันทิศา หวง ประเภทธุรกิจการแปรรูปและการถนอมผลไม้และผักด้วยวิธีอื่นๆ ซึ่งไม่ได้จัดประเภทไว้ที่อื่น งบดุลกำไรปี 2565  สั่งซื้อถุงมือยางจาก อคส.ราคากล่องละ 215 บาท มูลค่าสัญญารวม 2,580 ล้านบาท

3.บริษัท เคเค.ออยล์แอนด์แก๊ส จดทะเบียนธุรกิจ วันที่ 22 พ.ค.2556  ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาทมีกรรมการลงนาม 1.นายวงษ์บดีกาญจน์ ทองโสภณ 2.นางกรรณิการ์ หนุนภักดี จดทะเบียนธุรกิจประเภทการขายปลีกเชื้อเพลิงยานยนต์ในร้านค้าเฉพาะสถานีปั้ม สั่งซื้อถุงมือยางจาก อคส. 220 บาทต่อกล่อง มูลค่าสัญญารวม 11,000ล้านบาท

4.บริษัท เดอะควีนเพาเวอร์ จดทะเบียนธุรกิจ วันที่ 29 ต.ค2558 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท มีกรรมการลงนาม ประกอบด้วย 1.นายวิชชิ ศรีรักษ์อักษร 2.นายไพโรจน์ จารุวงศ์วัฒนา และ 3.นายเมธี อธิจิตสกุล  ประเภทธุรกิจการขายส่งเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ราคาซื้อถุงมือยางกับ อคส. เสนอซื้อถุงมือยางราคา 210 บาทต่อกล่อง  มูลค่าตามสัญญา 2,520 ล้านบาท 

และ5.บริษัท เอเอเมทิสต์ จดทะเบียนวันที่ 23ก.ค.2562  มีกรรมการลงนาม คือ นางสาวกัญณัฏฐ์ พฤกฒิธานินทร์ ประเภทธุรกิจกิจกรรมงานวิศวกรรมและการให้การปรึกษาทางด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้อง เสนอซื้อถุงมือยาง ราคา 210 บาทต่อกล่อง มูลค่าตามสัญญา 21,00 ล้านบาท

โดยทั้ง 5 บริษัทในสัญญาไม่มีการระบุว่า  หลักประกันของสัญญาซื้อขาย , ไม่มีกำหนดส่งสินค้าเป็นงวดที่แน่นอน ,ไม่มีหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ชื้อและไม่มีการกำหนดการสิ้นสุดแห่งสัญญา  ส่วนอีก 2 บริษัทที่เสนอซื้อถุงมือยางจาก อคส. เป็นบริษัทต่างชาติ