‘พล.อ.ประยุทธ์’กล่าวเวทียูเอ็นเรียกร้องเข้าถึงวัคซีนต้านโควิดอย่างเท่าเทียม

‘พล.อ.ประยุทธ์’กล่าวเวทียูเอ็นเรียกร้องเข้าถึงวัคซีนต้านโควิดอย่างเท่าเทียม

‘พล.อ.ประยุทธ์’กล่าวสุนทรพจน์ในเวทีประชุมยูเอ็นในโอกาสครบรอบ75ปี ยืนยันสนับสนุนความร่วมมือประชาคมโลก พร้อมทั้งเรียกร้องให้เข้าถึงวัคซีนต้านโรคโควิด-19 อย่างเท่าเทียม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย กล่าวสุนทรพจน์ผ่านระบบวีดิโอออนไลน์ ต่อที่ประชุมใหญ่องค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็นจีเอ)ครั้งที่ 75 ช่วงบ่ายวันศุกร์(25 ก.ย.)ตามเวลาสหรัฐ โดยใช้เวลากล่าวผ่านวิดิโอความยาว 15 นาที ที่บันทึกไว้ล่วงหน้า ด้วยการแสดงความยินดีต่อประธานในที่ประชุม และต่อยูเอ็นที่ก่อตั้งมาครบรอบ 75 ปี

“ตลอดระยะเวลา 75 ปี สหประชาชาติและรัฐสมาชิก ได้ฝ่าฟันความท้าทายต่าง ๆ อย่างไม่ย่อท้อ โดยในปีนี้โลกต้องประสบกับวิกฤตสาธารณสุขจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ระบบเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนทำให้วาระพิเศษครบรอบ 75 ปีของสหประชาชาติ ต้องถูกบดบังไป อย่างไรก็ดีความท้าทายอันใหญ่หลวงครั้งนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า การยึดมั่นในระบบพหุภาคี และความเป็นหนึ่งเดียวของรัฐสมาชิกคือหนทางที่จะนำไปสู่การหลุดพ้นจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังแสดงจุดยืนของไทยพร้อมทั้งเรียกร้องต่อนานาชาติให้เชื่อมั่นในการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศให้มากขึ้น

“ทุกประเทศ ต้องเชื่อมั่นในเรื่องของความร่วมมือระหว่างกัน ตลอดจนมีความแน่วแน่ มั่นคง และไม่หวั่นไหวต่อกระแสชาตินิยม และกระแสการต่อต้านโลกาภิวัตน์ ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้พวกเรามีความเป็นหนึ่งเดียว และสามารถฟันฝ่าภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้ในที่สุด เพราะเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ไม่มีประเทศใดสามารถเผชิญหน้ากับความท้าทายได้เพียงลำพัง และนี่คืออนาคตที่เราต้องการ”

นายกรัฐมนตรีของไทย ยังส่งกำลังใจไปยังประเทศสมาชิกทุกประเทศ และขอให้ผู้ป่วยจากโควิด-19 ทุกรายหายป่วยในเร็ววัน เช่นเดียวกับบุคลากรทางการแพทย์ และองค์กร หรือหน่วยงานต่างๆทั่วโลกที่กำลังต่อสู้โรคโควิด19 ให้ปลอดภัยและประสบความสำเร็จ

ขณะเดียวกัน ก็ได้ย้ำถึงมาตรการต่างๆ ของไทยในการรับมือกับโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้น ทั้งด้านการป้องกัน และรักษา รวมไปถึงการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ประเทศไทยได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว

“รัฐบาลไทย ยังสนับสนุนแผนพัฒนาโรคโควิด-19 ซึ่งหน่วยงานภาครัฐของไทย ได้เริ่มพัฒนาและวิจัยวัคซีนต้นแบบมาระยะหนึ่งแล้ว อีกทั้งยังได้ร่วมมือกับหุ้นส่วนในต่างประเทศอีกด้วย ทั้งนี้ผมเห็นว่า วัคซีน และยา สำหรับใช้รักษาโควิด-19 ควรต้องเป็นสินค้าสาธารณะระดับโลกที่ทุกประเทศได้รับสิทธิในการเข้าถึงอย่างเท่าเทียมกัน โดยสหประชาชาติจำเป็นต้องมีบทบาทนำในเรื่องนี้”