ทล.เตรียมลงนามสัญญา “บีจีเอสอาร์” เข้าบริหารมอเตอร์เวย์
ทล.เตรียมลงนามสัญญา “บีจีเอสอาร์” เข้าบริหารมอเตอร์เวย์ 2 สาย ภายใน พ.ย.นี้ หลังเร่งเคลียร์ปัญหาปรับแบบเส้นทางสายบางปะอิน – โคราช กระทบแผนส่งมอบพื้นที่ ย้ำหากเอกชนเดินหน้างานและติดปัญหาส่งมอบล่าช้า สัญญาเปิดกว้างขยายเวลา
นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล ผู้อำนวยการกองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง กรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการร่วมลงทุนการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน - นครราชสีมา และบางใหญ่ - กาญจนบุรี วงเงินลงทุนกว่า 6.1 หมื่นล้านบาท โดยระบุว่า เบื้องต้น ทล.กำหนดลงนามสัญญาร่วมกับเอกชนผู้ชนะการประมูล คือ กลุ่มกิจการร่วมค้าบีจีเอสอาร์ ภายในเดือน พ.ย.นี้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างสรุปรายละเอียดของแผนส่งมอบพื้นที่
รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ทล.มีการปรับแบบเส้นทางสร้างมอเตอร์เวย์ช่วงบางปะอิน - นครราชสีมา เนื่องจากตรวจสอบพบว่าตามเส้นทางออกแบบเดิมกำหนดไว้เป็นทางถนน แต่เมื่อเข้าสำรวจพื้นที่แล้วพบว่าบริเวณดังกล่าวขวางทางน้ำ ดังนั้นมีความจำเป็นต้องปรับแบบก่อสร้างให้เป็นสะพานยกระดับ ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน เพราะมีการขออนุญาตกรมป่าไม้เพื่อใช้เขตทางดังกล่าวแล้ว
อย่างไรก็ดี จากการปรับแบบก่อสร้างดังกล่าว ทำให้ ทล.ต้องเวนคืนที่ดินเพิ่มเติมในบางส่วน ซึ่งขณะนี้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งได้ทำหนังสือสอบถามไปยังอัยการ เพื่อตรวจสอบแผนส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนเข้ามาดำเนินการ โดยอัยการได้ตอบกลับหนังสือมายัง ทล.แล้ว ขั้นตอนปัจจุบันจึงอยู่ระหว่างรอหารือร่วมกับเอกชน ถึงรายละเอียดของแผนส่งมอบพื้นที่ หลังจากนั้นจึงจะกำหนดวันลงนามสัญญา เบื้องต้นประเมินว่าขั้นตอนทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย.นี้
“จากการหารือกับทางเอกชนผู้ชนะประมูล เขาต้องการเคลียร์รายละเอียดของแผนส่งมอบให้ได้ข้อสรุป ไม่อยากให้เป็นปัญหาส่งมอบพื้นที่กันในอนาคต ดังนั้นตอนนี้มันก็ต้องรอดูพื้นที่ให้ชัดเจนก่อนว่าจะปรับเป็นอย่างไร เพื่อไม่ให้หลังลงนามสัญญาจะมาติดปัญหาส่งมอบพื้นที่ล่าช้ากันอีก แม้ว่าในสัญญาจะระบุไว้แล้วว่า หาก ทล.ส่งมอบพื้นที่ล่าช้า เอกชนก็จะได้สิทธิ์ขยายเวลาชดเชย แต่ก็ไม่อยากมีใครอยากเสียเวลา”
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มกิจการร่วมค้าบีจีเอสอาร์ ได้เตรียมพร้อมในการลงนามสัญญาและเข้าบริหารจัดการดำเนินงานและบำรุงรักษามอเตอร์เวย์ทั้งสองโครงการแล้ว โดยปัจจุบันกิจการร่วมค้าบีจีเอสอาร์ได้ลงนามว่าจ้างบริษัทผู้รับจ้างที่จะต้องเข้ามาช่วยดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเรียบร้อย เพราะมีข้อกำหนดในสัญญาว่าเอกชนผู้ชนะประมูลจะต้องลงนามว่าจ้างบริษัทผู้รับจ้างอื่นๆ ให้แล้วเสร็จก่อนลงนามสัญญาร่วมลงทุน
นอกจากนี้ กลุ่มกิจการร่วมค้าบีจีเอสอาร์ ยังได้จัดหาแหล่งเงินกู้และจัดตั้งบริษัทใหม่เป็นนิติบุคคลเพื่อลงนามสัญญากับ ทล. และใช้เป็นบริษัทในการบริหารจัดการโครงการดังกล่าว ภายในชื่อบริษัท บีจีเอสอาร์ 6 จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 พันล้านบาท และบริษัท บีจีเอสอาร์ 81 จำกัด ทุนจดทะเบียน 850 ล้านบาท ประกอบกิจการร่วมลงทุนกับหน่วยงานของรัฐ เพื่อออกแบบ ก่อสร้าง และบำรุงรักษางานโยธาและงานระบบด่านเก็บค่าผ่านทางของโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง
อย่างไรก็ดี บีทีเอสคาดการณ์ว่าจะมีการลงนามสัญญาภายในเดือน ต.ค. - พ.ย.นี้ เนื่องจากปัจจุบันทราบว่าทางอัยการได้ทำหนังสือตอบกลับในรายละเอียดของสัญญาร่วมลงทุนแล้ว ขณะที่ทางเอกชนก็เตรียมความพร้อมในการลงนามสัญญาแล้วเสร็จ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีการลงนามสัญญาพร้อมกันทั้งสองโครงการ แบ่งเป็น 2 สัญญา
ทั้งนี้ โครงการติดตั้งและบริหารระบบเก็บเงิน (O&M) มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช และบางใหญ่-กาญจนบุรี ทล.เปิดประกวดราคาในรูปแบบ PPP gross cost กำหนดให้สัมปทานเอกชนระยะเวลา 30 ปี โดยระยะที่ 1 เอกชนต้องออกแบบและติดตั้งระบบเก็บค่าผ่านทาง ระบบจัดการจราจร สร้างอาคารด่าน คาดว่าจะใช้เวลา 3 ปี ส่วนระยะที่ 2 ต้องบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 30 ปี และจะได้รับค่าตอบแทนหลังเปิดบริการตามวงเงินที่เสนอ
โดยกลุ่มกิจการร่วมค้าบีจีเอสอาร์ เป็นเอกชนที่เสนอราคาต่ำสุด แบ่งออกเป็นมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน – โคราช ราคากลาง 33,258 ล้านบาท มีการเสนอราคาต่ำสุดอยู่ที่ 21,329 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 11,929 ล้านบาท ส่วนมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี ราคากลาง 27,828 ล้านบาท เสนอต่ำสุด 17,809 ล้านบาท หรือต่ำกว่าราคากลางถึง 10,019 ล้านบาท