`เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยูฯ`จ่อเข้าเทรด SET ช่วงเดือนพ.ย.นี้
"เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้" เตรียมขายไอพีโอ 200 ล้านหุ้น พร้อมเดินหน้าเข้าตลาดหุ้น SET ภายในช่วงเดือนพ.ย.นี้ หวังนำเงินระดมทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน-ขยายกิจการ ฟากผู้บริหาร มั่นใจผลงานโตแบบก้าวกระโดดในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึษทางการเงิน (FA) ในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ) ของบริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JR เปิดเผยว่าบริษัทคาดว่าจะนำหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ JR เสนอขายและเข้าซื้อขายหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ภายในช่วงเดือน พ.ย.2563 หลังจากที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติแบบคำขอเสนอขายหุ้นไอพีโอและตลาดหลักทรัพย์ฯอนุมัติการเข้าจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว โดยมีตัวย่อว่า JR และถูกจัดให้อยู่ในหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
ทั้งนี้บริษัทฯมีแผนจะเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 200 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.32% ของทุนชำระแล้ว สำหรับหุ้นจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไปและสถาบัน 184 ล้านหุ้น และกรรมการ,ผู้บริหาร และพนักงานบริษัทจำนวน 16 ล้านหุ้น โดยคาดว่าจะเดินสายให้ข้อมูล (โรดโชว์) กับกลุ่มนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนทั่วไปใน 3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ,สงขลา(หาดใหญ่), เชียงใหม่ ในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย.นี้
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 380 ล้านบาท และมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 280 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 560 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ภายหลังการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 380 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 760 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
ส่วนเงินที่ได้จากการระดมทุนบริษัทจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท,ใช้ขยายกิจการหรือรองรับการเข้าประมูลงานโครงการของภาครัฐและภาคเอกชนในอนาคต อย่างไรก็ตามมองว่าฐานะการเงิของบริษัท JR ค่อนข้างแข็งแกร่ง เพราะมีกระแสเงินสดปัจจุบันกว่า 400 ล้านบาทและภาระหนี้ต่ำมาก ขณะที่ด้านอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น(Interest Bearing D/E Ratio) อยู่ในระดับที่ต่ำประมาณ 0.2 เท่ามาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2560
นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ จำกัด(มหาชน) หรือ JR กล่าวว่า ณ สิ้นไตรมาส 2/2563 บริษัทมีงานในมือที่ลงนามในสัญญาแล้ว (Backlog) อยู่ประมาณ 6,400 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า (ปี2563-2566) โดยในส่วนของช่วงครึ่งปีหลังบริษัทคาดว่าจะมีการรับรู้รายได้จาก Backlog เข้ามาราว 547 ล้านบาท และทยอยรับรู้ในปี2564-2665 อีกประมาณปีละ 2,000 กว่าล้านบาท ซึ่งจะสนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดและทำจุดสูงสุด (นิวไฮ) ต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีจากนี้ จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้เกือบแตะ 1,000 ล้านบาท ซึ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ขณะที่สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานั้น ปี 2560 บริษัทมีรายได้รวม 967.60 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 41.25 ล้านบาท ,ปี 2561 ,uรายได้อยู่ที่ 934.17 ล้านบาท กำไรสุทธิ 82.92 ล้านบาท , ปี 2562 รายได้อยู่ที่ 848.90 ล้านบาท กำไรสุทธิ 60.75 และงวด 6 เดือนแรกปี 2563 รายได้อยู่ที่ 464.78 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 29.93 ล้านบาท ทั้งนี้การดำเนินงานของบริษัทส่วนใหญ่เป็นงานโครงการเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศ เป็นสายไฟฟ้าใต้ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู ส่วนในช่วงที่เหลือปีนี้บริษัทเตรียมเข้าประมูลงานอีก 500-800 ล้านบาท
"การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ จะช่วยให้บริษัทมีฐานทุนเพิ่มขึ้น จะทำให้สามารถรับงานที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ และยกระดับศักยภาพในการดำเนินธุรกิจสามารถก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำของอุตสาหกรรมธุรกิจวิศวกรรมระบบไฟฟ้า ระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างครบวงจร รวมถึงเพิ่มศักยภาพในกรบริหารงานและสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นในระดับที่ดี"