เปิดเบื้องหลังสุดเดือด 'หม้อไฟฉงชิ่ง' ที่สุดแห่งตำรับ 'หมาล่า'

ชาวฉงชิ่งชอบกินหม้อไฟเป็นอย่างยิ่ง กิจการร้านหม้อไฟจึงได้รับความนิยมและผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ร้านหม้อไฟขนาดใหญ่เล็กกว่า 3 หมื่นแห่ง ทำให้นครฉงชิ่งกลายเป็น "เมืองแห่งหม้อไฟหมาล่า"

แต่ในขณะเดียวกัน ชาวฉงชิ่งค่อนข้างพิถีพิถันกับรสชาติหม้อไฟเป็นพิเศษ บางคนชอบกินหม้อไฟใส่น้ำมันเก่า (น้ำมันใช้แล้วที่ผ่านกระบวนการต่างๆ ก่อนนำกลับมาใช้ใหม่) แบบดั้งเดิม แต่บางคนชอบหม้อไฟแบบสมัยใหม่ที่น้ำซุปค่อนข้างใสมากกว่า

เจ้าของร้านทุกแห่งในยุทธจักรหม้อไฟแห่งนี้ต่างคิดค้นสูตรพิเศษเฉพาะตัว เพื่อสร้างประสบการณ์แห่งรสชาติทั้งเปรี้ยวหวานขมเผ็ดลงในหม้อไฟทุกใบ เปรียบดั่งชีวิตที่มีครบทุกรสชาติ

หวัง อู่ เจ้าของร้านหม้อไฟที่เปิดร้านมาตั้งแต่ปี 2551 บอกเล่าถึงเรื่องราวการทำธุรกิจของเขาที่ต้องผ่านอุปสรรคหลายประการ กว่าจะมาเป็นร้านหม้อไฟที่ติดใจลูกค้า

แรกเริ่ม เขาเปิดร้านหม้อไฟด้วยความคิดที่จะรักษาวัตถุดิบและรสชาติเผ็ดชาตามแบบฉบับฉงชิ่งไว้

- หวัง อู่ เจ้าของร้านหม้อไฟหมาล่าชื่อดังในฉงชิ่ง -

หม้อไฟอร่อยนั้นทำไม่ง่าย หวังต้องลงแรงเต็มกำลังเพื่อให้รสชาติหม้อไฟของเขาถูกปากชาวฉงชิ่ง ทั้งยังต้องรักษารสชาติให้คงที่ หลังจากผ่านความล้มเหลวและสำเร็จมาหลายครั้งหลายครา ในที่สุดเขาก็ทำให้ลูกค้ายอมรับในรสชาติได้สำเร็จ

ลูกค้ารายหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า หม้อไฟของหวังนั้นเข้มข้น ซึ่งเป็นรสชาติแบบที่ชาวฉงชิ่งชื่นชอบที่สุด เป็นรสชาติแบบเก่าที่หากินที่อื่นได้ยาก

ขณะที่พนักงานร้านก็บอกว่า หวังเป็นคนที่ใส่ใจในรายละเอียด และมีความรับผิดชอบต่อลูกค้ามาก แม้ว่าเขาจะเคยเจอปัญหาเมื่อพนักงานเสิร์ฟหรือพ่อครัวลาออกบ้าง แต่เขาก็เคี่ยวเข็ญฝึกสอนคนมาใหม่จนสามารถแทนที่และทำผลงานให้ลูกค้ายอมรับได้

พนักงานในร้านคนหนึ่งกล่าวว่า หวังเป็นคนที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของอาหาร และมีมาตรฐานสูงมากในหลายๆ ด้าน เรียกได้ว่าเป็นเถ้าแก่ที่ดีที่สุดตั้งแต่เขาเคยเจอมา

เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ร้านหม้อไฟในฉงชิ่งหลายหมื่นแห่งต้องเผชิญกับช่วงเวลาอันเลวร้ายอันเนื่องจากโรคระบาด พวกเขาต้องดิ้นรนเอาตัวรอดในขณะปิดร้านนานหลายเดือน กระทั่งถึงช่วงกลางเดือน มี.ค. ที่สามารถกลับมาเปิดร้านได้อีกครั้ง หวังอู่ก็คิดหาวิธีที่จะดึงลูกค้ากลับมา

ตอนนี้เขาหันมาให้บริการแบบสมัยใหม่ เสิร์ฟอาหารในจานใบเล็กและให้บริการตามจำนวนลูกค้า สอดคล้องกับนโยบายไม่กินทิ้งกินขว้างของรัฐบาล และยังลดราคาอาหารลง ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้า “อร่อยมากเลย ราคาไม่แพง คำชมของลูกค้าผมฟังแล้วชื่นใจมาก” หวังเล่า

เส้นทางแห่งหม้อไฟที่เผ็ดร้อนและหลากรสชาติ ปลดปล่อยจิตวิญญาณของเจ้าของร้านให้ทุ่มเทพยายามรังสรรค์รสชาติแสนอร่อย แม้ความสำเร็จที่ได้มาจะต้องผ่านความยากลำบากก็ตามที อาจเป็นเหตุผลเดียวกับที่ชาวฉงชิ่งชอบกินหม้อไฟในหน้าร้อนโดยไม่เปิดแอร์ พวกเขาจะได้ซึมซับถึงความเผ็ดร้อนอย่างถึงใจ เพราะยิ่งเหงื่อซึมไหลก็ยิ่งรู้สึกสบายตัว

-------

ที่มา: ซินหัว