“จุรินทร์”ถกหมีขาวดันมูลค้าการค้า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ใน 3ปี
“จุรินทร์”ประชุมการค้าเศรษฐกิจไทย-รัสเซีย ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้เป็น 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 2566 ขอรัสเซียนำเข้ายางพารา สินค้าเกษตร เพิ่มขึ้น พร้อมร่วมมือพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 การค้าออนไลน์ เจรจาเอฟทีเอไทย-ยูเรเซีย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังคณะอนุกรรมาธิการด้านการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ไทย-รัสเซีย ครั้งที่ 4 ผ่านทางระบบประชุมทางไกล (Video Conference)กับนายวลาดิมีร์ อิลลิโชฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจของรัสเซีย ว่า ทั้ง 2 ประเทศจะร่วมกันส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้า ใน 8 เรื่องสำคัญประกอบด้วย 1.กำหนดเป้าหมายตัวเลขมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับรัสเซีย ใน 3 ปี คือตั้งแต่ปี 2564-2566 ให้ช่วยกันผลักดันให้มีมูลค่าการค้ารวม 10,000 ล้านดอลลาร์หรือ 3 แสนล้านบาท ในปี 2566 โดยมีมูลค่าการค้า เฉลี่ยปีละ 3,000 กว่าล้านดอลลาร์ หรือประมาณ ปีละ 100,000 ล้านบาท
2.สนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านสาธารณสุข ร่วมกันในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการพัฒนาวัคซีน 3. ไทยขอให้ทางรัสเซียเพิ่มการนำเข้าสินค้าเกษตรของไทยเพราะสินค้าเกษตรของไทยมีคุณภาพและมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับโลกและเป็นที่ยอมรับว่ามีความปลอดภัยโดยเฉพาะจากโควิด ทั้งหมวดของพืชเกษตร ปศุสัตว์ ประมง โดยเฉพาะไก่และกุ้ง 3.ขอให้รัสเซียนำเข้ายางพาราประเทศไทยมากขึ้นซึ่งยางพาราไทยถือว่ามีคุณภาพสูงทั้งยางแผ่น ยางแท่งหรือน้ำยางข้น เพื่อเข้าไปช่วยเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์และยุทโธปกรณ์ ที่เป็นสินค้าสำคัญของรัสเซียและขอให้ รอสเทค(Rostec)ของรัสเซียซึ่งเป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับยางได้เร่งจัดทำ MOU กับการยางแห่งประเทศไทยโดยเร็วโดยทางไทยได้ยกร่าง MOU เสร็จแล้ว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า 5.ผลักดันความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศภายหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ซึ่งในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวจากรัสเซียมาเที่ยวประเทศไทยประมาณ 1,500,000 คน โดยทางรัสเซียขอให้สนับสนุนให้นักท่องเที่ยวรัสเซียสามารถใช้บัตรเครดิตของรัสเซียนำมาใช้ในประเทศไทยเพื่ออำนวยความสะดวกในการมาเที่ยวไทยได้ ซึ่งเรื่องนี้ต้องให้ธปท.และของรัสเซียหารือกัน 6.ส่งเสริมให้ปรับรูปแบบกิจกรรมภาคธุรกิจในรูปแบบอีคอมเมิร์ซหรือในรูปแบบออนไลน์มากขึ้น ทั้งการจับคู่เจรจาทางธุรกิจหรือเรื่องของการจัดงานแสดงสินค้าในรูปของ virtual exhibition 7 .ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในระดับพหุภาคี โดยเฉพาะการผลักดันให้มีการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหภาพเศรษฐกิจยูแรเซีย ตลอดจนเชื่อมโยงการค้าระหว่างอาเซียนและรัสเซีย และ8.เห็นชอบลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขยายความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างกระทรวงพาณิชย์ของไทยและกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจของรัสเซียฉบับใหมาเพื่อยกระดับความร่วมมือของทั้ง 2ฝ่ายให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
ทั้งนี้ในปี 2562 รัสเซียเป็นคู่ค้าอันดับที่ 30 ของไทย การค้าไทยและรัสเซียมีมูลค่า 3.130.3 ล้านดอลลาร์ โดยไทยส่งออกไปรัสเซียมูลค่า 958.1 ล้านดอลลาร์ มีสินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ ยานยนต์และชิ้นส่วน ยางพารา และนำเข้าจากรัสเซียมูลค่า 2,172.1 ล้านดอลลาร์ สินค้านำเข้าสำคัญ คือ น้ำมันดิบ เหล็ก ยุทโธปกรณ์ และปุ๋ย