กลต. ขึ้นค่าฟีขั้นต่ำ 'เทรดหุ้น-อนุพันธ์'
ก.ล.ต. ปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ “โบรกเกอร์ ซื้อขายหลักทรัพย์-อนุพันธ์ ”อัตรา 5 หมื่น จากเดิม 2.5 หมื่น มีผลตั้งแต่ปี 64 พร้อมปรับค่าฟีเทรดตราสารหนี้เป็นขั้นบันไดมีผลทันทีรอบปีนี้
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ส่งหนังสือเวียนเรื่องซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์กำหนดค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการตามที่ได้รับใบอนุญาต โดยในครั้งนี้ เป็นการปรับปรุงเฉพาะส่วนอัตราค่าธรรมเนียมขั้นต่ำและอัตราค่าธรรมเนียมการค้าตราสารหนี้เท่านั้น
สำหรับอัตราค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ ได้กำหนดอัตราขั้นต่ำและขั้นสูงสุดไว้ดังต่อไปนี้ 1.กรณีประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ให้ผู้ประกอบธุรกิจชำระค่าธรรมเนียมรวมทุกประเภทธุรกิจในอัตราขั้นต่ำ 5 หมื่นบาท (กรณีผู้ได้รับใบอนุญาตประเภทการเป็นที่ปรึกษาการลงทุนเพียงประเภทเดียว ให้ชำระค่าธรรมเนียมปีละ 2.5 หมื่นบาทตามเดิม) และสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท
2.กรณีประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ให้ชำระค่าธรรมเนียมในอัตราขั้นต่ำ 5 หมื่นบาท และสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท เพิ่มเติมจากข้อ 1 และ 3. กรณีผู้ประกอบธุรกิจมีการหยุดประกอบธุรกิจชั่วคราวหรือถูกระงับการประกอบธุรกิจทุกประเภทตลอดปีค่าธรรมเนียม ให้ชำระค่าธรรมเนียมตามอัตราขั้นต่ำ 5 หมื่นบาท
ทั้งนี้จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป โดยให้ผู้ประกอบธุรกิจเริ่มใช้อัตราดังกล่าวสำหรับการชำระค่าธรรมเนียมในวันที่ 31 ม.ค.2565 ส่วนการคำนวณค่าธรรมเนียมรอบปี 2563 ให้ใช้อัตราขั้นต่ำที่ 2.5 หมื่นบาท ตามเดิม
ส่วนอัตราค่าธรรมเนียมค้าหลักทรัพย์ที่เป็นตราสารหนี้ ให้ชำระค่าธรรมเนียมตามมูลค่าการซื้อขายตราสารหนี้เป็นอัตราขั้นบันได โดยมีผลรอบปี 2563 ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจชำระ วันที่ 31 ม.ค.2564 ดังนี้ มูลค่าซื้อขายต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท อัตราค่าธรรมเนียม 5 หมื่นบาทต่อปี, มูลค่าซื้อขายตั้งแต่ 3 หมื่นล้านบาท ไม่ถึง 1 แสนล้านบาท ค่าธรรมเนียมที่ 2 แสนบาทต่อปี, มูลค่าซื้อขายตั้งแต่ 1 แสนล้านบาท แต่ไม่ถึง 2 แสนล้านบาท ค่าธรรมเนียม 5 แสนบาทต่อปี, มูลค่าซื้อขาย 2 แสนล้านบาท แต่ไม่ถึง 3 แสนล้านบาท ค่าธรรมเนียมที่ 1 ล้านบาทต่อปี , มูลค่าซื้อขาย 3 แสนล้านบาทแต่ไม่ถึง 1 ล้านล้านบาท ค่าธรรมเนียม 2 ล้านบาทต่อปี และตั้งแต่ 1 ล้านล้านบาทขึ้นไป ค่าธรรมเนียมที่ 3 ล้านบาทต่อปี