‘บัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ พฤศจิกายน 2563 เงินเข้าหลายเด้ง!
"บัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" เดือนพฤศจิกายน 2563 เงินเข้าหลายเด้ง รูดใช้ได้เลย!
เริ่มเข้าเดือนพฤศจิกายน 2563 โดยผู้ถือ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" (บัตรคนจน) ราว 14 ล้านคน จะได้รับวงเงินช่วยเหลือรอบใหม่จากรัฐบาล
โดยเพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม จำนวน 500 บาท/คน/เดือน รวมระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งในเดือนพฤศจิกายนนี้ นับเป็นเดือนที่ 2 แล้วที่ได้รับสิทธิ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี จะได้รับ (300+500) รวมเป็น 800 บาท/เดือน และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท/ปี จะได้รับ (200+500) รวมเป็น 700 บาท/เดือน
"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" รวบรวมวงเงินช่วยเหลือทั้งหมด ที่สามารถรูดใช้ได้เลย ซึ่งเงินเข้าเมื่อวันที่ 1 พ.ย.63 ที่ผ่านมา ดังนี้
1.วงเงินชำระค่าสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา
เพื่อใช้ซื้อของใช้จำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิต ซึ่งจะต้องใช้กับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น โดยไม่สามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้
- ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินช่วยเหลือ 300 บาทต่อเดือน
- ผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาท จะได้รับเงิน 200 บาทต่อเดือน
แต่สำหรับในเดือนพฤศจิกายน 2563 นี้ ยังอยู่ในระยะเวลาของมาตรการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จึงทำให้ผู้ถือ "บัตรคนจน" จะได้รับเงินเพิ่มอีกคนละ 500 บาท ทำให้ผู้ที่เคยได้รับ 200 บาท จะได้เพิ่มเป็น 700 บาท และผู้ที่เคยได้รับ 300 บาท ก็จะได้รับเพิ่มเป็น 800 บาท
2.ค่าเดินทางรถโดยสารสาธารณะ ไม่สามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้
-
ค่ารถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (รถเมล์ ขสมก.) และรถไฟฟ้า ผู้ที่ถือบัตรทุกคนจะได้รับรายละ 500 บาทต่อเดือน เฉพาะสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ลงทะเบียนในเขตกรุงเทพฯ และ 6 จังหวัดปริมณฑลเท่านั้น ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม สมุทรสาคร และพระนครศรีอยุธยา
-
ค่ารถโดยสาร บขส. (รถทัวร์ บขส.) 500 บาทต่อเดือน สามารถใช้จ่ายในการเดินทางด้วยการรูดบัตรหักค่าใช้จ่ายโดยสามารถใช้ได้โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง
- ค่ารถไฟ 500 บาทต่อเดือน ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้รับสิทธิ์ทุกคน ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่ไม่เกินวงเงินที่กำหนด
3.ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม จะได้รับ 45 บาทต่อ 3 เดือน ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ ซึ่งต้องนำไปใช้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่ต้องไม่เกินวงเงินที่กำหนด
เริ่มแจกเงินวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563
ค่าน้ำ 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน โดยครัวเรือนที่ใช้น้ำประปาไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อย (ตั้งแต่เดือน ต.ค.2563-ก.ย.2564) โดยสามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้
- กรุงเทพฯ และปริมณทล ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์การประปานครหลวง (กปน.) คลิก
- ต่างจังหวัด ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) คลิก
ค่าไฟ 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน โดยครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อย (ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2563-ก.ย. 2564) สามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี โอนเข้าบัญชีธนาคาร 1,000 บาท/เดือน (จากเดิม 800 บาท/เดือน) และผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โอนเข้าบัญชีธนาคาร 800 บาท และจะได้รับเบี้ยความพิการเพิ่ม 200 บาท/เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 เป็นต้นไป โดยจ่ายเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
สำหรับผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเบี้ยความพิการเพิ่มเติม 200 บาท/เดือน โดยกรมบัญชีกลางจะโอนเข้ากระเป๋า e-Money ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งผู้มีสิทธิ์สามารถกดเป็นเงินสด เพื่อให้สามารถสนองตอบความต้องการจำเป็นของผู้พิการ
ทั้งนี้ การจ่ายเบี้ยความพิการในเดือนถัดไป ยังคงจ่ายตามปฏิทินที่กำหนด ทุกวันที่ 10 ของเดือน อย่างไรก็ตาม ต้องรอฟังความชัดเจนเรื่องวันโอนเงินจากกรมบัญชีกลางอีกครั้ง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง หมายเลข 02 270 6400 ในวัน เวลาราชการ