ลงทุนในกลุ่ม Defensive Play
จับเทรนด์ "การลงทุน" ช่วงเดือนพฤศจิกายน มีปัจจัยใดบ้างที่ต้องนำมาวิเคราะห์? ต้องวางแผนกลยุทธ์การลงทุนอย่างไรบ้าง?
สวัสดีครับท่านนักลงทุนกลับมาพบกันอีกครั้ง เพื่อมาคุยกัน เรื่องกลยุทธ์การลงทุนในเดือนพฤศจิกายน เพื่อให้ทราบว่า ท่านนักลงทุน ต้องเตรียมกำหนดกลยุทธ์อะไรกันบ้างในเดือนนี้
ในเดือนพฤศจิกายนนี้ คาดว่า SET Index จะแกว่งตัว สร้างฐานบริเวณ 1,200 จุดบวกลบ โดยมีปัจจัยที่นักลงทุนต้องตามนั่นคือสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ โดยเฉพาะในสหรัฐ ฯ และยุโรปที่ยังคงน่ากังวล และอาจทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดอีกครั้ง หลังหลายประเทศเริ่มกลับไป Lockdown
อีกปัจจัยที่นักลงทุนต้องตามคือสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ เนื่องจากการที่มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองเกือบทุกวัน ทำให้การขึ้นของตลาดหุ้นถูกจำกัด
ปัจจัยที่นักลงทุนต้องตามอีกเรื่องนั่นคือผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ฯ เพราะเรื่องนี้สร้างความไม่แน่นอนและสร้างความล่าช้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ ฯ ซึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ ฯ นอกจากจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นสหรัฐ ฯ แล้ว ยังส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลกอีกด้วย
โดยรวมระยะสั้นจึงยังเน้นให้เลือกเก็งกำไรหุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบการออกมาแข็งแกร่งในไตรมาส 3 เช่น กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม, สื่อสาร ฯ, อสังหาฯ, โรงพยาบาล, โรงเรียน เป็นต้น และหากว่าดัชนีหุ้นมีจังหวะปรับตัวลง ยังมองว่าเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้น
ถ้าย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทย เปิดทำการซื้อขายวันแรกของเดือนที่ดัชนี 1,244.02 จุด ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1,282.65 จุด ทำจุดต่ำสุดของเดือนอยู่ที่ 1,187.49 จุด และลงมาปิดที่ 1,194.95 จุด จะเห็นว่าดัชนีหุ้นลงมา 56.53 จุด ดูจากราคาเปิดของวันแรกเดือนตุลาคม แต่ถ้าดูจากจุดสูงสุดของเดือนที่ 1,282.65 จุด ดัชนีหุ้นลงมาถึง 95.16 จุด จากตัวเลขสรุปได้ว่าดัชนีหุ้นในเดือนตุลาคม เป็นตลาดหุ้นขาลง อย่างชัดเจน
มาดูกันที่กลยุทธ์การลงทุนในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากยังมีการระบาดของ COVID-19 อยู่ การเดินทางระหว่างประเทศยังไม่มี ดังนั้นนักลงทุนยังคงต้องเลือกลงทุนในหุ้น Defensive Play ต่อไป และนักลงทุนต้องหาบทวิเคราะห์มาอ่านเพื่อค้นหาหุ้นที่คาดการณ์ว่ากำไรไตรมาส 3 น่าจะออกมาดี และค่อย ๆทยอยสะสมหุ้น ในช่วงดัชนี 1,180 ถึง 1,200 จุด
โดยการเข้าซื้อหุ้น ให้นักลงทุนแบ่งเป็น 3 ไม้ ในการเข้าซื้อ ยิ่งช่วงที่ยังมีการระบาดของ COVID-19 ประกอบกับยังมีการชุมนุมทางการเมือง นักลงทุนไม่ต้องใจร้อนเข้าซื้อหุ้น โดยนักลงทุนสามารถรอหาจังหวะการเข้าซื้อได้ ในช่วงที่มีข่าวร้ายมากระทบตลาดหุ้น
ในสถานการณ์แบบนี้ นักลงทุนต้องหาบทวิเคราะห์มาอ่านเพื่อทำความเข้าใจพื้นฐานของหุ้นที่สนใจจะลงทุน และควรศึกษาปัจจัยทางเทคนิคควบคู่ไปด้วย จะได้จับจังหวะการลงทุนได้ดีมากขึ้น
สำหรับการซื้อขายแยกตามกลุ่มนักลงทุน เดือนตุลาคม 2563 ( ข้อมูลวันที่ 1 – 30 ตุลาคม 2563 ) นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 21,876.22 ล้านบาท สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 13,115.03 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ ซื้อสุทธิ 1,891.02 ล้านบาท และรายย่อย ซื้อสุทธิ 33,100.23 ล้านบาท
ด้าน Fund Flow จะเห็นว่าแนวโน้มของกระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากประเทศไทยและภูมิภาค เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้หลายประเทศต้องกลับมาLockdown อีกครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นระยะสั้นเม็ดเงินจึงไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงและถือเงินสดมากขึ้น สังเกตได้จาก Dollar Index ที่แข็งค่าเร็ว
ในเดือนนี้ตลาดหุ้นมีแนวรับอยู่ที่ 1,180 และ 1,150 จุด และมีแนวต้านอยู่ที่ 1,200 และ 1,230 จุด ก่อนจากกันเช่นทุกครั้ง ต้องบอกกันว่า การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนทุกครั้ง พบกันใหม่เดือนหน้า สวัสดีครับ