Smart Mom นวัตกรรมห้องเรียนออนไลน์คุณแม่ 4.0

แอพพลิเคชั่น Smart Mom พัฒนาโดยสถาบันอาศรมศิลป์ เพื่อพัฒนาสื่อสร้างสรรค์การเรียนรู้สำหรับแม่ในยุค 4.0 ที่ออกแบบการเรียนรู้แบบ Micro-Learning ซึ่งเป็นแนวคิดหลักที่ช่วยกระตุ้นให้คุณแม่สามารถเรียนรู้ได้แบบต่อเนื่อง ทุกวัน ทุกเวลา ด้วยเวลาเพียงไม่กี่นาที เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งบน Smart Phone และบนเว็บไซต์

นอกจากนี้ เนื้อหายังเข้าใจง่ายเนื่องจากพัฒนามาจากหลักการดูแลเด็กปฐมวัยอย่างเป็นองค์รวมที่เริ่มต้นง่ายๆ ในครอบครัวตามกิจวัตรประจำวันของแม่และเด็ก ได้แก่ แม่พาเล่น งานบ้าน งานครัว งานสวน แม่พาคิดอ่านเขียน และการสื่อสารหัวใจแม่

ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่าการเรียนรู้สำหรับเด็กเล็กควรจะเริ่มตั้งแต่อายุ 3 ขวบ และควรจะเรียนรู้โลกผ่านพ่อแม่ บุคคลในครอบครัว เพราะเด็กวัยนี้ไม่ควรเรียนรู้ผ่านสื่อโดยลำพัง ซึ่งแอพพลิเคชั่น Smart Mom จะเป็นคู่มือที่ดีสำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครองที่ดูแลเด็ก หรือแม้แต่คุณครู ในการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการดูแลเด็กปฐมวัยอย่างเป็นองค์รวม และสอดคล้องกับวิถีชีวิตและพฤติกรรมของคุณแม่ในยุคใหม่ได้อย่างเหมาะสม

แอพพลิเคชั่น Smart Mom ออกแบบการเรียนรู้แบบ Micro-Learning ช่วยกระตุ้นให้คุณแม่สามารถเรียนรู้ได้แบบต่อเนื่อง ทุกวัน ทุกเวลา เพื่อให้มีทักษะในการรู้เท่าทันสื่อ เราต้องการพัฒนาสื่อที่สร้างการเรียนรู้ สนับสนุนพัฒนาการด้านสติปัญญา คุณธรรม ศีลธรรม และทักษะในการใช้ชีวิตให้อยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข

พร้อมสื่อประกอบการเรียนรู้ เครื่องมือคู่มือแม่ เทคนิคการเล่นกับลูก เคล็ดลับการพัฒนาภาษาของลูก และวิดีโอคลิปแนะนำแนวทางและข้อคิดสำคัญจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลเด็กปฐมวัย อาทิ อ.ธิดา พิทักษ์สินสุข อุปนายกสมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทย ดร.สุจินดา ขจรรุ่งศิลป์สาขาวิชาทางศึกษาศาสตร์ สถาบันอาศรมศิลป์ ดร.ปนัดดา ธนเศรษฐกร อาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดล ดร.ไพรินทร์ โชติสกุลรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารด้วยรักและสันติ ตลอดจนแบบทดสอบ (Quiz) เพื่อใช้ในการทบทวนความเข้าใจและประเมินผลการเรียนรู้เป็นรายบุคคล เพื่อให้มั่นใจว่า “แม่” จะได้รับความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และพร้อมที่จะนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“สิ่งที่สำคัญของเด็กปฐมวัยมากที่สุดคือ การที่มีพ่อแม่ที่ ‘มีอยู่จริง’ สำหรับลูก โดยเฉพาะแม่ที่ควรจะต้องเลี้ยงลูกด้วยตนเองมากที่สุดใน 3 ขวบปีแรก เพราะเป็นฐานของการเติบโต พ่อแม่ควรสอนลูกให้สามารถดูแลตัวเองและของของตัวเองได้ในช่วงอนุบาล เช่น แต่งตัวเองได้ เก็บของเล่น เก็บที่นอนเองเป็น ต่อมาระดับประถมต้องช่วยดูแลบ้านได้ เช่น การล้างจาน หุงข้าว ซักผ้า และเริ่มขยายสู่สาธารณะได้ เช่น รู้จักเข้าคิว ไม่ทิ้งขยะบนถนน แยกขยะ ฯลฯ"

"การสอนลูกให้ทำอะไรด้วยตัวเอง รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น เมื่อเขาออกไปสู่สังคมก็ให้รู้ว่าควรจะปฏิบัติตามกติกาสาธารณะอย่างไร สิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานของพลเมืองดีของประเทศ ของโลก ซึ่งเนื้อหาของแอพพลิเคชั่น Smart Mom จะช่วยตอบโจทย์ความรู้ความเข้าใจที่จำเป็นและสำคัญต่อการดูแลลูกในช่วงปฐมวัย และสอดรับกับวิถีชีวิตของคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องการความรู้ที่สามารถนำไปใช้ได้ทันที และเข้าถึงได้ง่ายในทุกที่ ทุกเวลาที่ต้องการ”

ทุกวันนี้สื่อมีอิทธิพลในสังคมสูงมาก เพราะเรารับรู้โลกผ่านสื่อทั้งนั้น สื่อจึงเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อความคิด ความเชื่อ ทัศนคติ และพฤติกรรมของมนุษย์โดยตรง ถ้าเรามีเนื้อหาที่ไม่ดี ความคิด ความเชื่อ ทัศนคติ ก็ย่อมไม่ดีตามไปด้วย ผลกระทบทางสังคมก็จะแย่ไปด้วย ดังนั้น การพัฒนาสื่อสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้ จึงนับเป็นนโยบายที่สำคัญ ซึ่งกองทุนพัฒนาสื่อฯ หวังว่า ในอนาคตเราจะมีสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นในสังคมไทย คุณแม่ยุคใหม่ที่สนใจการเรียนรู้ผ่านแอพพลิเคชั่น Smart Mom สามารถลงทะเบียนเพื่อใช้งานได้ที่ https://smartmomonline.com/th/login