'ธนาธร'หาเสียง'อบจ.นนทบุรี'ถาม8ปีมีอะไรดีขึ้นบ้างฉะ'บ้านใหญ่'ผูกขาดมานาน
"ธนาธร" ช่วยหาเสียง "เลือกตั้งนายกอบจ.นนทบุรี" ชี้ อำนาจผูกขาด "บ้านใหญ่" หลายสิบปี เอางบฯ ไปทำสิ่งไม่ตอบสนองปชช. ถาม 8 ปีที่ผ่านมา มีอะไรดีขึ้น ลั่น "ก้าวหน้า" จะทำให้เห็นการเมืองไม่ใช่เรื่องสกปรก แต่เปลี่ยนคุณภาพชีวิตได้
ที่โรงแรมเวสต์เกตเรสซิเดนซ์ จ.นนทบุรี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และนายไพบูลย์ กิจวรวุฒิ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นนทบุรี เบอร์ 1 ร่วมแถลงนโยบายพร้อมแสดงวิสัยทัศน์ในการพัฒนาจังหวัดนนทบุรี ภายใต้งานที่ใช้ชื่อว่า"Nonthaburi Blue Print 2024 & Press Conference"
นายธนาธร กล่าวว่า วันที่ 20 ธันวาคมนี้ มีความสำคัญในปฏิทินการเมืองของปีนี้เป็นอย่างยิ่งเพราะการเลือกตั้งท้องเป็นการเลือกฝ่ายบริหารได้เอง ซึ่งคืองบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กว่า 8 แสนล้านบาท โดยเป็นงบประมาณ อบจ. กว่า 8 หมื่นล้านบาท การเมืองท้องถิ่นคือการให้บริการสาธารณะที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด แต่ที่ผ่านมา พวกเขามักจะบอกกับเราเสมอว่าการเมืองเป็นเรื่องสกปรก นั่นเพราะต้องการไม่ให้เราไปยุ่งกับการเมือง อำนาจจึงถูกผูกขาดกับบ้านใหญ่มานานกว่าหลายสิบปี และเอางบประมาณไปทำในสิ่งที่ไม่ตอบสนองกับประชาชน ทั้งนี้ หากผู้ที่ได้รับเลือกเป็น นายก อบจ.นนทบุรี จะได้บริหารงบประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี หรือ 8,000 ล้านบาทต่อหนึ่งวาระ ซึ่งงบประมาณจำนวนมหาศาลขนาดนี้ หากนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ทุจริตคอรัปชั่น ตนมีความเชื่อมั่นว่า จ.นนทบุรี ดีกว่านี้ได้อย่างแน่นอน
"แต่ที่ผ่านมาประชาชนไม่สนใจการเมือง เพราะเชื่อตามที่เขาบอกว่าการเมืองเป็นเรื่องสกปรกทำให้นักการเมืองท้องถิ่นทำการทุจริต เอาภาษีของพี่น้องประชาชนไปใช้ในสิ่งที่ไม่ตอบสนองกับความต้องการของประชาชนโดยไม่ถูกตรวจสอบ ถ้านำงบประมาณไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต้องมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในจังหวัดของท่านบ้าง คำถามคือ 8 ปีที่ผ่านมามีอะไรทีดีขึ้นบ้าง คำตอบคือเพราะเราไม่สนใจการเมือง ปล่อยให้เขาเอางบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชนถูกใช้ไปยังไงก็ได้ เพราะเขาบอกและเราเชื่อว่าการเมืองเป็นเรื่องสกปรก แต่รอบนี้คณะก้าวหน้าจะทำให้ทุกคนเห็นว่าการเมืองไม่ใช่เรื่องสกปรก แต่การเมืองเป็นเรื่องคุณภาพชีวิต การเมืองเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว และถ้าการเมืองดีสามารถเปลี่ยนคุณภาพชีวิตของประชาชนได้จริงๆ" นายธนาธรกล่าว
ธนาธร กล่าวอีกว่า หากนำงบประมาณไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เราสามารถพัฒนาระบบสาธารณะตามจังหวัดต่างๆให้ดีได้ เช่น รถเมล์หรือรถประจำทางที่ตรงต่อเวลา เพราะเหตุที่คนมักจะไม่ค่อยใช้รถประจำทางสาธารณะ เพราะว่าไม่มีความตรงต่อเวลา ทำให้คนไม่สามารถกำหนดอนาคตของตนเองได้ ถ้าเรามีเจตนาที่ดีที่จะรับใช้ประชาชน สิ่งที่กล่าวมานั้นสามารถทำให้เป็นจริงได้ ตนจึงย้ำการเมืองท้องถิ่นนั้นมีความใกล้ชิดกับประชาชน และส่งผลต่อคุณภาพชีวิตประชาชนโดยตรง
ด้าน นายไพบูลย์ กล่าวว่า การทำนโยบายของเราใช้เวลาเก็บข้อมูลกว่า 3 ปี ด้วยหลักคิดจาก 1 เป้าหมาย 4 ฐานราก 5 นโยบาย เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนจังหวัดนนทบุรี ซึ่ง 5 นโยบายหลักของคณะก้าวหน้า นนทบุรี ก็คือ 1.ต้องมีการคมนาคมครบวงจร 2.เศรษฐกิจชุมชน3.อิสระแห่งการเรียนรู้ 4.สาธารณะสุขและสิ่งแวดล้อม และ 5.ขยะมูลค่าเพิ่ม โดยนโยบายทั้งหมดนั้นจะนำไปสู่ 1 เป้าหมายเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของชาวนนทบุรี ทั้งนี้ ปัญหาของนนทบุรีนั้นมีเยอะแยะมากมาย แต่ที่เป็นปัญหาหลักๆ นั่นก็คือปัญหารถติด ซึ่งนโยบายการแก้ปัญหารถติดของตนนั้นคือการพัฒนาและเพิ่มการขนส่งสาธารณะและทำให้มีคุณภาพ เมื่อมีระบบขนส่งรถสาธารณะที่ดีและทั่วถึง จะทำให้ประชาชนไว้วางในในการเลือกใช้รถสาธารณะมากขึ้น และเมื่อประชาชนใช้รถสาธารณะมากขึ้น การใช้รถส่วนตัวน้อยลง รถบนถนนก็จะเบาบางลง นอกจากนี้ ตนยังออกแบบเพิ่มเส้นทางรถสาธารณะกว่า 22 เส้นทาง โดยใช้รถ EV bus และมั่นใจว่าภายใน 4 ปีจะสามารถแก้ไขปัญหารถติด และคุณภาพชีวิตชาวนนทบุรีจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
"อีกหนึ่งนโยบายที่สำคัญคือการพัฒนาพื้นที่เกาะเกร็ดให้เป็นพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เศรษฐกิจ ซึ่งจากการทำข้อมูลพบว่า พื้นที่เกาะเกร็ดนั้นยังเป็นที่รกร้างอีกกว่า 2,000 ไร่ ตนจึงจะพัฒนาพื้นที่ในส่วนนี้ ผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยที่จะทำการคมนาคมเชื่อมกับรถไฟฟ้าและเรือด่วนเจ้าพระยา เพื่อการเดินทางที่สะดวกสบายของนักท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย" นายไพบูลย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากงานแถลงนโยบายท้องถิ่นจังหวัดนนทบุรีเสร็จสิ้น คณะก้าวหน้านำโดยนายธนาธร พร้อมด้วยนายไพบูลย์และทีมงาน เดินทางไปยังตลาดพระปิ่น 3 เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 20 ธันวาคม บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนให้การตอบรับคณะก้าวหน้าอย่างอบอุ่น ต่างเข้ามาขอถ่ายรูปกันเนืองแน่น