'กุลิศ' ชี้แบตเตอรีปฏิวัติพลังงาน รัฐแก้กฎระเบียบหนุนเทคโนโลยีใหม่
“พลังงาน” ชี้แบตเตอรีปฏิวัติพลังงาน เผย “ไบเดน” หนุนพลังงานสะอาด ดันอีวีโตกระตุ้นใช้แบตเตอรี
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยปาถกฐาในงานสัมมนา “แบตเตอรี่ : ปฏิวัติพลังงานอนาคต Everlasting Battery” จัดโดย บริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ว่า เทคโนโลยีใหม่จะนำไปสู่พลังงานสะอาดที่แก้ไขภาวะโลกร้อน โดยจะพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าใหม่มาใช้ทั้งมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้า รถบัสไฟฟ้า เรือไฟฟ้า รถไฟฟ้า เพื่อทดแทนเครื่องยนต์สันดาปภายใน
ทั้งนี้ หลังจากที่นายโจ ไบเดน ได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ประกาศนโยบายลงทุน 4 แสนล้านดอลลาร์ หรือกว่า 13 ล้านล้านบาท ในการลงทุนด้านพลังงานสะอาด 10 ปี ซึ่งสหรัฐจะใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่ม 4 ล้านคัน และสร้างสถานีชาร์ตไฟฟ้าอีก 5 แสนแห่ง ภายในปี 2573 ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็น 0% ภายในปี 2593
ขณะที่จีนประกาศหยุดผลิตรถยนต์สันดาปภายในปี 2573 สหภาพยุโรป (อียู) หยุดขายรถยนต์สันดาปภายในปี 2583 ซึ่งแม้จะใช้รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) สัดส่วนเพียง 0.4% ของรถยนต์ทั่วโลก แต่ลดการใช้น้ำมันได้ถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าปี 2593 สัดส่วนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกจะสูงถึง 54%
ส่วนรัฐบาลไทยกำหนดเป้าหมายผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทั้งในทุกรูปแบบให้ได้ไม่ต่ำกว่า 30% หรือมีจำนวน 750,000 คัน/ปี ภายในปี 2573 และในปี 2593 จะใช้รถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศไม่ต่ำกว่า 2.5 ล้านคัน
ทั้งนี้ หัวใจหลักของการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า คือแบตเตอรี่ ซึ่งใน 10 ปีที่ผ่านมาพัฒนาลิเทียมไอออนต่อเนื่องทำให้ราคาลดลงถึง 80% หรือลดลงเฉลี่ยปีละ 8% และมีแนวโน้มที่ราคาจะลดต่ำลงเรื่อยๆ รวมทั้งมีความจุไฟฟ้าและระยะทางการวิ่งได้ไกลขึ้น ทำให้สร้างสถานีชาร์ตไฟฟ้ารองรับได้ รวมทั้งจะเกิดธุรกิจด้านพลังงานใหม่ ซึ่งจะเป็นการปฏิวัติพลังงานครั้งสำคัญ
ส่วนกระทรวงพลังงานได้ปรับตัว โดยทำแผนพีดีพี 2020 ที่จะเริ่มทำปี 2564 ที่รองรับปัญหาโควิด และครอบคลุมแผนพัฒนาพลังงานทุกด้าน รวมทั้งการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า การพยากรณ์การใช้พลังงานในอนาคต จะนับรวมถึงความต้องการใช้ไฟฟ้าของยานยนต์ไฟฟ้าทุกชนิด ระบบรางที่จะใช้รถไฟฟ้าสายใหม่ และรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ที่เกิดขึ้น ตลอดจนการขยายตัวของสถานีชาร์ตไฟฟ้าทั่วประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้การใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
“รัฐบาลจะเร่งปรับกฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคกับเทคโนโลยีใหม่และพลังงานไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งรวมถึงการกำหนดราคาไฟฟ้าสำหรับชาร์ตอีวีที่แยกจากราคาไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม มาเป็นการคิดราคาไฟฟ้าเพื่อรถอีวีโดยเฉพาะ รวมทั้งการปรับนโยบายเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจผลิตไฟฟ้าที่แบตเตอรี่จะเข้ามาปฏิวัติพลังงานในอนาคต เพื่อกำหนดทิศทางสำหรับรถยนต์อีวี และการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนให้ทันต่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง”
นายอาลี อิซาดี นาจาฟาอาดีหัวหน้าฝ่ายวิจัยประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ของบลูมเบิร์ก นิว เอเนอร์จี้ ไฟแนนซ์ ชี้ว่าเทรนด์แบตเตอรี่ของโลกกำลังพัฒนาก้าวไปอย่างรวดเร็วสู่ระบบกักเก็บที่เน้นใช้พลังงานหมุนเวียนในรูปแบบแบตเตอรี่ลิเธียมเน้นการลดขนาด 40% แต่เพิ่มศักยภาพชาร์จเร็วขึ้น 10 เท่า และให้พลังงานมากขึ้น 10กิกะวัตต์ต่อชั่วโมง
รวมถึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งพบว่า สหรัฐและเอเชียแปซิฟิก กำลังเป็นตลาดที่ครองสัดส่วนแบตเตอรี่แนวใหม่ที่ได้ก้าวขึ้นมามีความสำคัญในปัจจุบัน และคาดว่าสามารถพัฒนาให้มีศักยภาพสุดขึ้นในอนาคต โดยจะเห็นว่า ในปีนี้แนวโน้มการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมยังสูงขึ้นถึง 98% แต่ราคาถูกลง และลดต้นทุนอีกด้วย
นายดีน แฟรงเคิล เจ้าหน้าที่พัฒนาธุรกิจและกลยุทธ์ของโซลิด พาวเวอร์ บริษัทสัญชาติอเมริกัน ซึ่งเป็นพันธมิตรของบางจาก กล่าวว่า โซลิดพาวเวอร์ตั้งใจพัฒนาโซลิด สเตทถือเป็นเทคโนโลยีแบตเตอรี่ในเจเนเรชั่นถัดไปสำหรับตลาดแบตเตอรี่เคลื่อนที่ โดยปัจจุบันมีอุปสงค์มากขึ้นจากตลาดอื่น เช่น แหล่งกักเก็บพลังงานแบบติดตั้งอยู่กับที่ ทำให้โซลิดพาวเวอร์พัฒนาให้โซลิด สเตทตอบโจทย์การใช้งานด้านอื่นด้วย แต่ยังเน้นการเพิ่มศักยภาพลดขั้นตอนการผลิตสู่การเป็นมัลติเพลเยอร์เพื่อช่วยประหยัดต้นทุน มุ่งเพิ่มกำไรและความปลอดภัย
“ขอเน้นย้ำว่า โซลิด สเตทเป็นเทคโนโลยีประเภทหนึ่งที่นำไปสู่การพัฒนาแบตเตอรี่ขั้นสูงขึ้น ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ 2 กลุ่มใหญ่น่าสนใจ ได้แก่ โซลิดอิเล็กโทรไลต์และโซลิดสเตทพาสฟอร์มที่ให้พลังงานสูงกว่าถ้าเทียบกับแบตเตอรี่ชนิดอื่น เพราะใช้ซิลิคอนอาร์โหนดแทนกราไฟท์ และยังปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์น้อยลงหลายเท่าตัว”
นายโรเบิร์ต เอ.แรงโก้ซีอีโอของเอเนอร์เวท คอร์ปอเรชั่น ในฐานะพันมิตรด้านพลังงานแบตเตอรี่ของบางจาก กล่าวว่า เป้าหมายหลักของเทคโนโลยีเอเนอร์เวทเน้นพัฒนาแบตเตอรีที่หลากหลายใช้ในหุ่นยนต์ รถยนต์อีวี และรถบรรทุกเพื่อการขนส่งสินค้าเชื่อว่า แบตเตอรี่ไฟฟ้าที่มีศักยภาพทางธุรกิจ จะช่วยลดต้นทุนการผลิต 20% และประหยัดค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 20% ในขั้นตอนการผลิต
นายแรงโก้ กล่าวว่าเทคโนโลยีเอเนอร์เวทมีความโดดเด่นในเรื่องการช่วยลดต้นทุนในทุกด้าน ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างเร็วภายใน 5 นาที เทียบเท่ากับการใช้เวลาเพื่อเติมน้ำมัน สามารถใช้ในอากาศที่หนาวเย็น ทนทานกว่าแบตเตอรี่รถอีวีที่ใช้ในปัจจุบันมากถึง 30%