มาตรการล็อกดาวน์หนุนรายได้เน็ตฟลิกซ์
มาตรการล็อกดาวน์หนุนรายได้เน็ตฟลิกซ์ ขณะธุรกิจวิดีโอสตรีมมิงกำลังจะเข้ามาแทนที่ธุรกิจการแพร่ภาพ-กระจายเสียงสำหรับซีรีส์และภาพยนต์
อานิสงส์จากมาตรการล็อกดาวน์ของหลายประเทศทั่วโลก ทำให้เน็ตฟลิกซ์ บริษัทให้บริการสตรีมมิงซีรีส์และภาพยนต์ชั้นนำของโลกได้ประโยชน์ไปเต็มๆ ล่าสุด “รีด แฮสติงส์” ผู้ก่อตั้งและประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารร่วม(โค-ซีอีโอ)เน็ตฟลิกซ์ ให้สัมภาษณ์ในงานนิกเคอิ โกลบอล แมเนจเมนท์ ฟอรัม เมื่อวันอังคาร(10พ.ย.)ว่าธุรกิจวิดีโอสตรีมมิงกำลังจะเข้ามาแทนที่ธุรกิจการแพร่ภาพ-กระจายเสียงสำหรับซีรีส์และภาพยนต์ พร้อมทั้งคาดว่ามาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะช่วยให้บริษัทมีผู้ใช้งานหน้าใหม่ 34 ล้านคนในปีนี้
"การแพร่ภาพ-กระจายเสียงยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งสำหรับการแข่งขันกีฬาและข่าวแต่ผมคิดว่าซีรีส์ และภาพยนต์จะปรับเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบวิดีโอสตรีมมิงเสียส่วนใหญ่ ซึ่งวิดีโอสตรีมมิงมีข้อได้เรียบตรงนี้ผู้ใช้งานสามารถชมเนื้อหาเมื่อใดก็ได้ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา
เน็ตฟลิกซ์ เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทที่ได้ประโยชน์จากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19มากที่สุด โดยบริษัทคาดการณ์ว่าในปีนี้ปีเดียวจะมีสมาชิกใหม่ประมาณ 34 ล้านคน มากกว่าช่วงสองสามปีที่ผ่านมาประมาณ 4 ล้านคน แต่ซีอีโอเน็ตฟลิกซ์ ก็บอกว่า หัวใจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสตรีมมิงของบริษัทเติบโตอย่างมากไม่ได้มาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพียงอย่างเดียว แต่มาจากซีรีส์ หรือ ภาพยนต์ที่มีคุณภาพ สนุกและถูกใจผู้ชมด้วย
“โดยทั่วไปแล้ว ผู้ชมต้องการดูซีรีส์หรือภาพยนต์ดีๆอยู่แล้ว ไม่ว่าจะมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19หรือไม่”แฮสติงส์ กล่าวและว่านี่จึงเป็นเหตุผลให้บริษัทหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างเนื้อหาฉบับออริจินัล
"ถือเป็นเรื่องโชคดีที่ตอนนี้ ผู้ชมทั่วโลกสามารถเข้าถึงการบริการของเน็ตฟลิกซ์ได้ เพราะบริษัทใช้นโยบายแชร์เนื้อหากับทั่วโลก อย่างกรณีซีรีส์เรื่อง “Crash Landing on You,”ซีรีส์แนวดรามาของเกาลีที่ได้รับการตอบรับจากทั่วโลก“ซีอีโอเน็ตฟลิกซ์ กล่าวและว่า ถ้าเจอคนที่ใช่ ก็สามารถบริหารจัดการผ่านทางวัฒนธรรมและค่านิยมได้แทนที่จะบริหารจัดการด้วยการออกคำสั่งหรือการควบคุม”
เมื่อไม่นานมานี้ แฮสติงส์ ได้ตีพิมพ์หนังสือชื่อ “No Rules Rules: Netflix and the Culture of Reinvention.” โดยเนื้อหาสาระของหนังสือเล่มนี้อยู่ที่ "ถ้าเจอคนที่ใช่ ก็สามารถบริหารจัดการผ่านทางวัฒนธรรมและค่านิยมแทนที่จะบริหารจัดการด้วยการออกคำสั่งหรือการควบคุม"
เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา สำนักข่าวทีเอเอสเอส (ทาสส์) ของรัสเซีย รายงานว่าเน็ตฟลิกซ์ ประกาศร่วมมือเป็นพันธมิตรกับเนชั่นแนล มีเดีย กรุ๊ป(เอ็นเอ็มจี) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย เพื่อขยายบริการบันเทิงของสหรัฐเข้าไปสร้างปรากฎการณ์ใหม่ในรัสเซีย โดยการแปลซีรี่ส์และรายการต่างๆ ของเน็ตฟลิกซ์ให้เป็นภาษารัสเซีย รวมทั้งนำเสนอรายการของเน็ตฟลิกซ์ในรัสเซียเพิ่มมากขึ้น
เน็ตฟลิกซ์เวอร์ชั่นภาษารัสเซียเริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่ช่วงกลางเดือนตุลาคม ซึ่ง “เดนิส คุซคอฟ” ผู้บริหารบริษัทเทเลคอมเดย์ลี มีความเห็นว่า ความร่วมมือระหว่างเน็ตฟลิกซ์ และเอ็นเอ็มจีจะช่วยให้เน็ตฟลิกซ์เพิ่มส่วนแบ่งในตลาดรัสเซียได้เพิ่มเป็นสองเท่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จากการที่ได้มีการนำเสนอซีรี่ส์ในภาษาท้องถิ่นเพิ่มขึ้น
คุซคอฟ กล่าวว่า เน็ตฟลิกซ์ มีความเป็นเลิศด้านเนื้อหา ถ้าเอ็นเอ็มจีเข้ามาช่วยในเรื่องนี้จะทำให้ส่วนแบ่งตลาดของเน็ตฟลิกซ์ขยับเพิ่มเป็น 7-8% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 4 %
ปัจจุบัน ตลาดภาพยนตร์และซีรี่ส์ออนไลน์ในรัสเซียถูกกำหนดโดยความเหมาะสมของเนื้อหาและเน้นการใช้ภาษาท้องถิ่น ซึ่ง“เซอร์เกย์ โปโลฟนิคอฟ” หัวหน้าฝ่ายตรวจสอบเนื้อหา กล่าวว่า จากปัจจัยดังกล่าวทำให้ภาพยนตร์และซีรี่ส์ออนไลน์ของผู้ให้บริการท้องถิ่นในรัสเซีย เช่น อัคโค สตาร์ท และพรีเมียร์ ยังคงได้รับการตอบรับจากชาวรัสเซียมากกว่า ขณะที่เน็ตฟลิกซ์สามารถนำเสนอภาพยนตร์ได้ทั่วโลก แต่ยังไม่มีเนื้อหาที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ชมชาวรัสเซีย
โปโลฟนิคอฟ มีความเห็นว่า เอ็นเอ็มจีเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเน็ตฟลิกซ์ เนื่องจากเอ็นเอ็มจีเป็นผู้ให้บริการสื่อรายใหญ่ของรัสเซีย รวมถึงได้สิทธิในการเผยแพร่ภาพยนตร์และซีรีส์ต่างประเทศจำนวนมา ซึ่งเน็ตฟลิกซ์อาจต้องปรับพื้นที่ให้ผู้ชมชาวรัสเซียสามารถเข้าถึงได้เพิ่มมากขึ้นผ่านภาพยนตร์ของรัสเซีย ซึ่งความร่วมมือระหว่างเน็ตฟลิกซ์กับเอ็มเอ็นจีจะช่วยให้การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าชาวรัสเซียง่ายขึ้น