หารือคลังออกมาตรการลดหย่อนภาษีคู่สมรสรักษาภาวะมีบุตรยาก

หารือคลังออกมาตรการลดหย่อนภาษีคู่สมรสรักษาภาวะมีบุตรยาก

กรมอนามัย-ราชวิทยาลัยสูติฯ ผลักดันสิทธิประโยชน์ด้านการช่วยเหลือภาวะมีบุตรยาก จัดทำข้อเสนอเป็นทางเลือก 3 ระดับ  หารือกระทรวงการคลังออกมาตรการลดหย่อนภาษีให้กับคู่สมรสที่เข้ารับการรักษาภาวะมีบุตรยาก ช่วยลดค่าใช้จ่าย-ส่งเสริมประชาชนสามารถเข้าถึงบริการ

        เมื่อเร็วๆนี้ นพ.สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัยเป็นประธานการประชุมหารือแนวทางผลักดันสิทธิประโยชน์ด้านการช่วยเหลือภาวะมีบุตรยาก  ณ ห้องประชุมนรพัฒน์ สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย โดยมี  ศ.นพ.กำธร  พฤกษานานนท์  ประธานคณะอนุกรรมการเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย นพ.ดร.สรภพ เกียรติพงษ์สาร  ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนานโยบายสาธารณะ นพ.โอฬาริก มุสิกวงศ์ ประธานคณะอนุกรรมการการศึกษา ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย และนพ.พีระยุทธ สานุกูล ผู้อำนวยการสำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ นำเสนอข้อมูลเพื่อการพิจารณา และมีผู้เข้าร่วมประชุมจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กรมการแพทย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสำนักงานประกันสังคม

      นพ.สุวรรณชัย  กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้มีการผลักดันร่างข้อเสนอสิทธิประโยชน์ด้านการช่วยเหลือภาวะมีบุตรยาก โดยดำเนินการ ดังนี้ 1. จัดทำร่างข้อเสนอสิทธิประโยชน์ด้านการช่วยเหลือภาวะมีบุตรยาก โดยผนวกเข้ากับข้อเสนอการเข้าถึงการตั้งครรภ์คุณภาพโดยการเข้าถึงการรักษาโรคภาวะมีบุตรยากของราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยที่ผ่านตามเกณฑ์การคัดเลือกหัวข้อจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เรียบร้อยแล้ว 
     
      โดยจัดทำข้อเสนอเป็นทางเลือก 3 ระดับ ได้แก่ ระดับ1ให้สิทธิในการตรวจคัดกรองเบื้องต้น อาทิ ผู้หญิงสามารถตรวจคัดกรองความผิดปกติทางโครงสร้างของมดลูก โดยการตรวจภายในและตรวจอัลตราซาวด์ และสำหรับผู้ชายสามารถตรวจคัดกรองคุณภาพน้ำเชื้อหรือตรวจวิเคราะห์สเปิร์ม (Semen Analysis) เพื่อดูความแข็งแรงของอสุจิ  ระดับ 2 การเข้าถึงการรักษาด้วยการฉีดเชื้อ (IUI) แลระดับ 3 การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ทั้งนี้จะต้องจัดส่งภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2563

    ​      2. ดำเนินการเตรียมความพร้อมในการจัดบริการในส่วนต่าง ๆ เพื่อรองรับการให้สิทธิการรักษา อาทิ การสร้างความเข้าใจ และปรับทัศนคติต่อการรักษาภาวะมีบุตรยาก ให้เข้าใจตรงกันว่าเป็นการรักษาโรค และเป็นสิทธิด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ที่ประชาชนมีสิทธิได้รับ รวมทั้งเตรียมความพร้อมการจัดบริการของสถานบริการสาธารณสุข โดยเฉพาะการจัดบริการรักษาด้วยการฉีดเชื้อกับสูตินรีแพทย์ที่มีศักยภาพในการดำเนินการได้ และ 3. หารือกับกระทรวงการคลัง ในการออกมาตรการลดหย่อนภาษี ให้กับคู่สมรสที่เข้ารับการรักษาภาวะมีบุตรยาก เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายและส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการมากยิ่งขึ้นด้วย