เปิดโปง 'โกงเงินสหกรณ์รถไฟ 2 พันล้าน' บุกจับ 9 เครือข่าย ยุทธการปราบ 'ด่วนนรกซอมบี้'
สนธิกำลัง ตร.สืบสวนกลาง เปิดยุทธการปราบ "ด่วนนรกซอมบี้" จับ 9 เครือข่ายโกงเงินสหกรณ์รถไฟ เสียหายกว่า 2 พันล้าน ตรวจค้น 4 จังหวัดยึดทรัพย์จำนวนมาก เปิดโปงเส้นทางโกง ส่งสำนวนให้ ดีเอสไอ-ปปง. เร่งขยายผลหาเงินคืนสมาชิก
กรณีปฎิบัติการยุทธการ “ด่วนนรกซอมบี้” ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 26 จุดใน 4 จังหวัด กรุงเทพ , เพชรบุรี , สมุทรปราการและนนทบุรี พร้อมยึดทรัพย์สินได้หลายรายการ ซึ่งเป็นเครือข่ายทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด (สอ.สรฟ.) ถูกเปิดเผย โดย พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข รอง ผบช.ก. , พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ ผบก.รฟ. กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมกันแถลงยุทธการ ”ด่วนนรกซอมบี้” จับกุมเครือข่ายทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด (สอ.สรฟ.) ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้
ประกอบด้วย นายบุญส่ง หงส์ทอง อายุ 70 ปี อดีตผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ายจัดการ สอ.สรฟ. , น.ส.พิมพา รอดรัศมี อายุ 49 ปี , น.ส.อรชนก สงัดศัพท์ อายุ 31 ปี , นายวีระชัย ศรีสวัสดิ์ อายุ 59 ปี , นางสุรัตน์ ศรีสวัสดิ์ อายุ 69 ปี , นายประพัฒน์ ศรีสวัสดิ์ อายุ 37 ปี , นายศุภกิจ อ้นอารี อายุ 44 ปี , นายปรีชา ธนะไพรินทร์ อายุ 63 ปี และ น.ส.ณัฐญาณิศ มหาโชติ อายุ 40 ปี รวม 9 ราย
ในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ , ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง หรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม ร่วมกันฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานที่ออกตาม พ.ร.บ.สหกรณ์ และความผิดฐานฟอกเงิน หลังปล่อยเงินกู้ 199 สัญญา ซึ่งผิดระเบียบสหกรณ์ที่กำหนดให้กู้รายละไม่เกิน 15 ล้านบาท รวมค่าความเสียหายกว่า 2,800 ล้านบาท
พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ทางตำรวจได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวมหลักฐานมาเป็นเวลานานก่อนเข้าดำเนินการขอศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหา โดยพบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินแปรสภาพไปเป็นทรัพย์สินอื่น เช่น บ้าน ที่ดิน และ รถยนต์ เป็นต้น
“สำหรับปฏิบัติการนี้ที่เรียกว่าซอมบี้ เพราะเปรียบซอมบี้เป็นเชื้อโรคที่แทรกซึมกัดกินอยู่ในคนธรรมดา ซึ่งไม่ตาย อยู่ง่ายตายยาก เปรียบเสมือนกรณีนี้ที่แทรกซึมอยู่ในองค์กร เหมือนเชื้อร้ายที่คอยกัดกินและพร้อมที่จะแพร่พันธุ์ ฉะนั้นจึงเป็นที่มาของชื่อปฏิบัติการครั้งนี้” พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ ระบุ
ขณะที่ พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 13 ม.ค. 2555-16 พ.ย. 2559 กลุ่มผู้ต้องหาเป็นคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติเงินกู้สมาชิก แต่อนุมัติปล่อยเงินกู้กันเองโดยไม่ผ่านกระบวนการที่ถูกต้อง และไม่มีการประชุมสมาชิก โดยได้นำเงินออกไปใช้จ่ายส่วนตัวครั้งละไม่เกิน 15 ล้านบาทต่อครั้งต่อคน พร้อมปลอมแปลงเอกสารสิทธิ์ โดยประสานพันธมิตร 15 สหกรณ์ระดมเงินลงทุนไปแปรเปลี่ยนเป็นอสังหาริมทรัพย์ หรือลงทุนทำธุรกิจโรงแรมรีสอร์ท โครงการบ้านจัดสรร และโครงการที่ดินจัดสรร 50 ไร่ และซื้อสินค้าต่างๆ
พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวเสริมถึงพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหาว่า ทั้งหมดเป็นอดีตเจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ ซึ่งมีอำนาจในการเบิกจ่ายและอนุมัติเงินกู้เงินโดยไม่ผ่านการประชุมของคณะกรรมการภายใน ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2555-2559 โดยจะมีการนำเงินสหกรณ์ออกมาครั้งละไม่เกิน 15 ล้านบาทต่อคน ซึ่งสหกรณ์ดังกล่าวมีสมาชิกกว่า 2,300 คน สร้างความเสียหายมูลค่ากว่า 2,800 ล้านบาท และ สร้างความเสียหายให้พันธมิตรสหกรณ์อีก 15 สหกรณ์ เบื้องต้นยังไม่พบความเชื่อมโยงว่าสหกรณ์อื่นมีความเกี่ยวข้อง แต่ตำรวจยืนยันว่าจะเร่งขยายผลว่าผู้ที่เข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกหรือไม่
พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวว่า บช.ก. จึงประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พร้อมบูรณาการกำลังตำรวจสังกัดสอบสวนกลาง นำหมายค้นศาลอาญาเข้าปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่ และยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิดจำนวนมาก ทั้งเงินสดหลักสิบล้านบาท รถยนต์ เงินสด โฉนดที่ดิน กระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกาหรู เครื่องประดับและทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการ ก่อนส่งสำนวนการสอบสวนให้ดีเอสไอดำเนินการตามกฎหมายต่อไป