โรงแรม ASQ-ALQ โอดยอดเข้าพักไม่คุ้มลงทุนปรับระบบรับลูกค้าไทย-ต่างชาติกักตัว

นายโชคดี วิศาลสิงห์ หัวหน้าสายงานกลุ่มโรงแรม 1 บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า ปัจจุบันโรงแรมที่เข้าร่วมเป็นสถานที่กักกันโรคแห่งรัฐทางเลือกในกรุงเทพฯ (Alternative State Quarantine : ASQ) และในต่างจังหวัด (Alternative Local Quarantine : ALQ) มีลูกค้าเข้าพักจำนวนน้อยมาก เฉพาะเดือน ต.ค.ที่ผ่านมามีลูกค้าเข้าใช้บริการราว 1 หมื่นคนเท่านั้น ไม่สัมพันธ์กับจำนวนซัพพลายห้องพักโรงแรม ASQ และ ALQ ทั่วประเทศซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 100 แห่ง คิดเป็นจำนวนห้องพักมากกว่า 1 หมื่นห้อง

“ตอนนี้โรงแรมที่ลงทุนทำเป็น ASQ และ ALQ มีลูกค้าเข้าพักน้อยมาก ไม่คุ้มเงินที่ลงทุนทำระบบพื้น แอร์ วงจรปิด และอื่นๆ เพื่อรองรับการเข้ากักกันตัว ส่วนลูกค้าทั่วไปเมื่อทราบว่าโรงแรมนั้นๆ เป็น ASQ และ ALQ ก็ไม่เข้ามาใช้บริการเลย จนทำให้ผู้ประกอบการโรงแรม ASQ และ ALQ หลายแห่งถึงกับบอกว่าอยู่เฉยๆ ดีกว่า จึงขอเสนอให้รัฐออกนโยบายสนับสนุนการจัดประชุมสัมมนา เพื่อให้โรงแรมได้มีเม็ดเงินมาเสริมสภาพคล่องมากขึ้น”

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า สมาคมฯได้ผลักดันให้รัฐบาลเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อหนุนสายการบินให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศบินตรงสู่เมืองท่องเที่ยวอื่นๆ นอกเหนือจากกรุงเทพฯ เช่น ภูเก็ต และสมุย เนื่องจากโรงแรมที่เข้าร่วมเป็น ASQ และ ALQ ลงทุนปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกให้เป็นไปตามมาตรฐานสุขอนามัยมากพอสมควร แต่มีชาวต่างชาติเข้าพักเดินทางด้วยเที่ยวบินต่างๆ ที่ขนส่งผู้โดยสารเข้าไทยประมาณ 300 คนต่อวัน ถือเป็นจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับซัพพลายห้องพักโรงแรม ASQ และ ALQ ที่มีรวมมากกว่า 1 หมื่นห้องพักทั่วประเทศ

“โรงแรมที่เข้าร่วมเป็น ASQ และ ALQ ขณะนี้ไม่ได้ทำธุรกิจเพื่อกำไร ทำเพื่อความอยู่รอด แต่พอยังไม่มีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย ส่งผลให้โรงแรมหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และสมุย มีอัตราเข้าพักเพียง 0% เท่านั้น” นายกทีเอชเอกล่าว

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า หลังจากมีซัพพลายโรงแรม ASQ และ ALQ มากขึ้น ททท.จะรวมรวมรายชื่อโรงแรมเหล่านี้เพื่อนำเสนอแก่เอเย่นต์ในประเทศที่มีความเสี่ยงโรคโควิด-19 ต่ำและมีดีมานด์ต้องการเดินทางเข้าไทย เพื่อกระตุ้นอัตราการเข้าพักของโรงแรมให้มีมากขึ้น

ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า วานนี้ (27 พ.ย.) สธ.ได้จับมือกับอโกด้า (Agoda) เปิดตัวแพลตฟอร์มจองแพ็คเกจโรงแรม ASQ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแรกของประเทศไทยเพื่ออำนวยความสะดวกในการจองโรงแรมสถานที่กักตัวแก่ชาวไทยที่ต้องการเดินทางกลับเข้าประเทศไทย และชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในประเทศไทย ช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการค้นหา เปรียบเทียบแพ็คเกจ ASQ ในประเทศไทย เช่น จำนวนห้องพักที่ว่าง ราคาห้องพัก ประเภทห้องพัก และบริการอื่นๆ เป็นการลดเวลาในการเลือกจองโรงแรมที่ได้รับการรับรองโดย สธ.

นอกจากนี้ยังมีบริการครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้บริการ มีการแสดงผลมากถึง 39 ภาษา บริการดูแลลูกค้าใน 21 ภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษและจีนบริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง และมีกระบวนการชำระเงินที่สะดวกรวดเร็ว นับเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย ส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบกิจการในทุกระดับ

“ไทยถือเป็นประเทศแรกในโลกที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งคนไทยและต่างชาติ ด้วยการใช้แพลตฟอร์มระดับนานาชาติเพื่ออำนวยความสะดวกในการจองแพ็คเกจ ASQ เชื่อมโยงกับผู้ประกอบการโรงแรม จากปกติอาจต้องเข้าไปในเว็บไซต์ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แต่วันนี้สามารถเข้ามาหาข้อมูลได้จากแพลตฟอร์มของอโกด้า อ่านรีวิวเพื่อหาห้องพักที่ตรงกับความต้องการทั้งรูปแบบห้องและราคา ส่วนอนาคตหากมีบริษัทท่องเที่ยวเจ้าของแพลตฟอร์มใดสนใจร่วมกับ สธ.เพื่อนำเสนอแพ็คเกจ ASQ ก็พร้อมยินดีร่วมงานกัน”

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า ขณะนี้มีโรงแรมที่ได้รับการรับรองเป็น ASQ แล้ว 113 แห่ง คิดเป็น 14,793 ห้องพัก ตอนนี้สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาทแล้ว

สำหรับการเปิดตัวแพลตฟอร์มดังกล่าว เบื้องต้นมีสถานประกอบการเข้าร่วมเสนอแพ็คเกจ ASQ ให้เลือกรับบริการประมาณ 37 แห่ง และจะขยายเพิ่มจำนวน ASQ และ ALQ อีกกว่า 100 แห่ง คาดว่าจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 3 หมื่นราย และสร้างรายได้ให้ประเทศเพิ่มอีกกว่า 1,000 ล้านบาท หลังจากช่วงก่อนหน้านี้มีทั้งชาวไทยและต่างชาติเลือกเข้าพัก ASQ ในไทยแล้ว 37,929 คนแล้ว จากจำนวน 1.5 แสนคนที่เดินทางเข้าประเทศทั้งหมด