'รมช.มนัญญา' รายงานนายกฯ คดีสหกรณ์รถไฟคืบ ประสานลับ 'ดีเอสไอ' ยึดทรัพย์
"รมช.มนัญญา" เผยนายกรัฐมนตรีขอบใจ กรณีเดินหน้าสะสางทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ เดินหน้าทวงคืนทรัพย์ที่ถูกยักยอกกลับคืนสหกรณ์ ลั่นเอาผิดให้ถึงที่สุด ด้านกรรมการสอ.สรฟ.ยกทีมขอบคุณ รมช.เกษตรฯ ระบุเพราะ รมช.เอาจริงถึงมีวันนี้ บุกจับกุมยึดทรัพย์
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด(สอ.สรฟ.) เข้ามอบดอกไม้เพื่อแสดงความขอบคุณว่า ได้รายงานกรณีที่สำนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าบุกยึดและจับกุมอดีตกรรมการสหกรณ์สอ.สรฟ. ที่ทุจริตสหกรณ์เสียหายเกือบ 3 พันล้านบาท ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ขอบใจที่ได้ช่วยติดตามจนนำมาสู่ปฏิบัติการจับกุม ทั้งนี้นายกฯได้ฝากให้ติดตามถึงที่สุดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิกสอ.สรฟ.และสหกรณ์ทั่วประเทศว่า ระบบสหกรณ์นั้นเป็นที่พึ่งของทุกคนและหากพบว่าสหกรณ์ไหนกระทำผิดก็ต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายจะไม่มีการยกเว้นโดยเด็ดขาด
“ซึ่งหลังจากนี้ ก็ต้องติดตามว่าดีเอสไอจะยึดทรัพย์อะไรได้เพิ่มเติมเพื่อนำมาเป็นทรัพย์สินของสหกรณ์ โดยจะให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นพี่เลี้ยงช่วยในการประสานติดตาม สมาชิกจะได้ใจชื้นขึ้นมาบ้างว่าสหกรณ์แห่งนี้ยังเดินหน้าได้และสามารถที่จะให้บริการทางการเงินกับสมาชิก ชำระหนี้สมาชิกและเจ้าหนี้ได้ เพราะหลักของสหกรณ์คือการพี่งพากันทุกฝ่ายพยายามให้สหกรณ์เดินหน้าได้ ไม่ได้ต้องการให้สหกรณ์ล้ม ดังนั้นบางเรื่องอาจเร็วบ้าง ช้าบ้าง ไม่ถูกใจกองเชียร์ก็เป็นเรื่องปกติเพราะทุกอย่างต้องว่ากันตามกฏหมาย และคนอย่างดิฉันเงินซื้อไม่ได้นะคะ อย่างไรก็ตามในเรื่องสหกรณ์นี้ฝากพี่น้องประชาชน สมาชิกสหกรณ์ทุกคนว่าต้องช่วยกันตรวจสอบการทำงานของสหกรณ์ที่ท่านสังกัด เพื่อจะได้เป็นหูเป็นตาร่วมกันเพื่อรักษาผลประโยชน์ของพวกท่านเอง“ นางสาวมนัญญา กล่าว
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า หลังจากนี้ต้องให้เป็นหน้าที่ของดีเอสไอ ในการไล่ตรวจสอบยึดทรัพย์ที่ถูกอดีตกรรมการสอ.สรฟ.ชุดต่างๆ ทุจริตกลับมาดำเนินการคดี ซึ่งถือว่าก็ยังเป็นโชคดีอยู่บ้าง ที่เงินที่ทุจริตไป ได้ถูกนำไปซื้อที่ดิน และเป็นทรัพย์สินในรูปแบบต่าง ๆ เช่น รถยนต์ ที่สามารถขายได้ ในอนาคตก็จะกลับคืนสู่สหกรณ์เป็นทรัพย์ของสหกรณ์
ทั้งนี้ ขอให้กรรมการสอ.สรฟ.ไปทำแผนรายละเอียดของหนี้สินและทรัพย์สินแยกเป็นกองต่าง ๆ ให้ชัด เช่น กองหนี้ของสมาชิก หรือหนี้สินของสหกรณ์ และทรัพย์ที่คาดว่าจะได้คืนจากดีเอสไอในอนาคต เพื่อให้สมาชิกสอ.สรฟ. ได้รับทราบและคลายกังวล และให้เตรียมทำแผนที่จะเจรจากับเจ้าหนี้สหกรณ์ เพื่อจะได้ไม่เป็นปัญหาในการตั้งค่าเผื่อหนี้สูญ ของสหกรณ์เจ้าหนี้ซึ่งคาดว่าทุกฝ่ายพร้อมเจรจาเนื่องจากทุกสหกรณ์ก็ไม่มีปัญหาสภาพคล่อง สามารถปล่อยกู้ได้เช่นกัน เมื่อสอ.สรฟ.มีความชัดเจนในเรื่องสถานที่ดีขึ้นก็เป็นผลดีต่อการทำธุรกรรมของสอ.สรฟ.ในอนาคต
นายสาโรจน์ สุขแสงดาว ประธานสหกรณ์สอ.สรฟ. กล่าวว่า กรรมการทั้งหมดมาขอบคุณรมช.มนัญญา เพราะหากไม่ได้ท่าน ก็คงไม่นำมาสู่การดำเนินคดีและการจับกุมกรรมการที่ทุจริต เพราะต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาเมื่อครั้งที่รมช.ไปตรวจเยี่ยมงานสอ.สรฟ. สมาชิกก็ไม่มีใครคาดหวังว่าท่านจะมาช่วยอะไรได้ แต่จากการติตตามงานทั้งโดยเปิดเผยและไม่เปิดเผย จนนำมาสู่การจับกุมทำให้สมาชิกสอ.สรฟ.ได้รับทราบการทำงานของท่าน ทำให้ทุกคนอยากจะมาที่กระทรวงเพื่อแสดงความขอบคุณ
“ หลังจากที่รมช.มนัญญาไปตรวจเยี่ยมแล้ว กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ช่วยสอ.สรฟ.ในการทำแผนบริหารเงินและชำระหนี้เพื่อให้สอ.สรฟ. ที่มีเงินเข้ามาจากการให้บริการสมาชิกเดือนละ 48 ล้านบาท สามารถที่จะแบ่งชำระหนี้และเหลือสภาพคล่องเพื่อบริการสมาชิกในแต่ละเดือน ทำให้วันนี้สอ.สรฟ.สามารถชำระหนี้ได้หลายแห่งหมดแล้ว เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) 130 ล้านบาท ชำระได้หมดแล้ว นอกจากนี้ยังได้ชำระหนี้ตั๋วเงินธนาคารเทพ 60 ล้านบาท ชำระหนี้ตั๋วเงินธนาคารกรุงไทย 60 ล้านบาท จากหนี้ ณ ปี 2561 ส่งผลให้ยอดชำระหนี้เจ้าหนี้เงินฝากจากปี 61 จำนวน 2,600 ล้านบาท ขณะนี้ ธ.ค. 2563 เหลือ 2,100 ล้านบาท และในปีหน้าเดือนเม.ย. 2564 สอ.สรฟ.มีแผนจะชำระหนี้คืนเจ้าหนี้ตามข้อตกลง จาก 0.7 % เป็น 1 % เป็นการแสดงให้เห็นว่าสอ.สรฟ. ยังเดินหน้าได้และพยายามที่จะชำระหนี้เจ้าหนี้ทุกราย “ นายสาโรจน์กล่าว