อังกฤษลงนามข้อตกลงการค้ากับสิงคโปร์

อังกฤษลงนามข้อตกลงการค้ากับสิงคโปร์

อังกฤษลงนามข้อตกลงการค้ากับสิงคโปร์ ขณะความหวังบรรุดีลกับอียูริบหรี่ลงเรื่อยๆ

อังกฤษลงนามข้อตกลงการค้าเสรีกับสิงคโปร์ในวันพฤหัสบดี(10ธ.ค.) ซึ่งจะเปิดทางให้บริษัทของทั้งสองประเทศยังคงได้รับสิทธิประโยชน์จากการค้าสินค้าและบริการมูลค่าราว 1.7 หมื่นล้านปอนด์ (2.3 หมื่นล้านดอลลาร์) แบบเดียวกับที่ได้รับภายใต้ข้อตกลงการค้าระหว่างสหภาพยุโรป (อียู) กับสิงคโปร์

รัฐมนตรีการค้าของสองประเทศลงนามข้อตกลงร่วมกันที่สิงคโปร์ ซึ่งการทำข้อตกลงครั้งนี้จะทำให้ทั้งสองประเทศยังคงความสัมพันธ์ทางการค้าต่อกันหลังจากที่อังกฤษออกจากระบบตลาดเดียวของยุโรปอย่างเป็นทางการ โดยรัฐมนตรีการค้าของสิงคโปร์ได้ยืนยันก่อนหน้านี้ว่า ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างอียูและสิงคโปร์ จะยังคงมีผลบังคับใช้ในช่วงเปลี่ยนผ่านเบร็กซิท ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค.นี้

การทำข้อตกลงกับสิงคโปร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินและการค้าที่สำคัญของโลกนั้น จะทำให้อังกฤษได้รับแรงสนับสนุนในเอเชีย ในขณะที่อังกฤษกำลังเจรจาต่อรองข้อตกลงการค้าหลัง เบร็กซิทกับอียู

ทั้งนี้ อังกฤษลงนามข้อตกลงการค้าหลังเบร็กซิทกับญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา แต่การทำข้อตกลงกับสิงคโปร์ถือเป็นการทำข้อตกลงครั้งแรกกับประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 10 ประเทศ และมีประชากรรวมกันราว 650 ล้านคน

“ลิซ ทรัสส์” รัฐมนตรีการค้าของอังกฤษ กล่าวชื่นชมความเป็นผู้นำของสิงคโปร์ในการบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีครั้งนี้ โดยระบุว่า “สิงคโปร์เป็นคู่ค้าและหุ้นส่วนการลงทุนที่สำคัญของอังกฤษในอาเซียน ขณะที่อังกฤษเป็นจุดหมายการลงทุนชั้นนำในยุโรปสำหรับสิงคโปร์”

ด้าน“ชาน ชุน ซิง” รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสิงคโปร์ กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้บริษัทของอังกฤษเข้าถึงโอกาสในภูมิภาคผ่านทางสิงคโปร์

นอกจากนี้ การทำข้อตกลงครั้งนี้ยังเป็นการปูทางสำหรับอังกฤษในการเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี) ซึ่งสิงคโปร์เป็นหนึ่งในสมาชิก 11 ประเทศ

การทำข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างอังกฤษและสิงคโปร์มีขึ้นในขณะที่อังกฤษและอียูยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากันได้ เนื่องจากสองฝ่ายยังเห็นต่างหลายประเด็น

นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของอียู กำหนดกรอบเวลาในการเจรจาการค้า โดยระบุว่า ทั้งสองฝ่ายจะต้องบรรลุข้อตกลงการค้าให้ได้ภายในวันอาทิตย์ที่ 13 ธ.ค.นี้

การกำหนดกรอบเวลาเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าภายในวันอาทิตย์นี้ มีขึ้นหลังจากที่นายจอห์นสัน และนางฟอน เดอร์ เลเยน ได้ประชุมร่วมกันเมื่อวานนี้ที่กรุงบรัสเซลส์

อย่างไรก็ดี นางฟอน เดอร์ เลเยน กล่าวว่าอียูและอังกฤษ ยังคงมีมุมมองที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับเงื่อนไขที่จำเป็นต่อการทำข้อตกลงการค้าหลังจากที่อังกฤษแยกตัวออกจากอียู หรือเบร็กซิท

“เราได้เจรจาร่วมกันในทุกประเด็นที่ยังค้างคา และเราต่างก็เข้าใจสถานะของกันและกัน แต่ก็ยังมีอีกหลายประเด็นที่เรายังไม่สามารถตกลงกันได้ อย่างไรก็ดี เราเห็นพ้องร่วมกันว่า เราจะตัดสินใจภายในวันอาทิตย์นี้ว่าเราจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าร่วมกันได้หรือไม่ ก่อนที่อังกฤษจะแยกตัวจากอียูอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ม.ค. 2564” นางฟอน เดอร์ เลเยน กล่าวหลังจากประชุมร่วมกับนายจอห์นสัน เมื่อวันพุธ(9ธ.ค.)