สธ.เผย 7 จ.ปลอดภัย'โควิด-19'เท่าจังหวัดอื่น

สธ.เผย 7 จ.ปลอดภัย'โควิด-19'เท่าจังหวัดอื่น

สธ.เผยภาพรวม 7 จังหวัด คุมโควิด-19ได้ ไม่พบแพร่ระบาดในจังหวัด ปลอดภัยเท่ากับจังหวัดอื่นๆ ไม่มีจุดเสี่ยงในไทยไปเที่ยวทุกแห่งไม่ต้องกักตัว เปิดวันครบระยะ 14 วันรายจังหวัด


เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข ในการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) กล่าวว่า ประเทศไทยตรวจพบผู้ติดโควิด -19 รายใหม่ 11 ราย โดยเป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศและเข้ารับการกักตัวในสถานที่กักกันที่รัฐกำหนดทั้งหมด จากประเทศสวีเดน อเมริกา โปรตุเกส เกาหลีใต้ ประเทศละ 1 ราย ซาอุดิอาระเบีย บาเรนห์ ประเทศละ 2 รายและเมียนมา 3 ราย

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า กรณีเกี่ยวข้องกับจ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ถึงวันนี้มีผู้ติดโควิด-19 จำนวน 49 ราย ในจำนวนนี้ 30 คนเข้าอยู่ในสถานที่กักกันของพื้นที่(Local State Quarantine:LQ) อีก 17 รายเป็นผู้ลักลอบเข้าผ่านช่องทางธรรมชาติและเดินทางไปใน 7 จังหวัด และผู้ติดโควิด-19ต่อจากผู้ลักลอบเข้า 2 ราย อีกทั้ง จังหวัดที่เกี่ยวข้องกับผู้ติดโควิด-19 ที่ลักลอบเข้าเมืองนั้นมีการดำเนินการมาตรการต่างๆอย่างเข้มข้น อาทิ จ.เชียงราย มีการตรวจหาเชื้อคนในพื้นที่ไปแล้วกว่า 6,000 รายส่วนใหญ่ไม่พบการติดเชื้อ โดยพบติดโควิด-19เพียง 2 รายซึ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อที่ลักลอบเข้าประเทศเท่านั้น ยังไม่มีผู้ป่วยรายใดหลุดจากระบบสอบสวนควบคุมโรค จึงไม่พบการระบาดในจ.เชียงรายสามารถไปเที่ยวได้ ส่วนจ.พิจิตร ตรวจแล้ว กว่า 900 ราย และจ.สิงห์บุรี ตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 35 รายไม่พบติดเชื้อ เป็นต้น


“ภาพรวมใน 7 จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดโควิด-19 เชื่อมโยงกับการลักลอบเข้าเมืองจากท่าขี้เหล็ก ไม่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คือ พบการติดเชื้อในกลุ่มผู้ลักลอบเข้าเมือง และติดไปยังคนอื่นต่ออีก 2 รายเท่านั้น ไม่มีการแพร่กระจายต่อไปในวงอื่นเพิ่มขึ้น สถานการณ์จึงคุมได้ ทุกจังหวัดจึงมีความปลอดภัยเท่ากับจังหวัดอื่นๆ ขณะนี้ไม่สถานที่ที่เป็นจุดเสี่ยง เดินทางไปจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ เมื่อกลับมาไม่ต้องกักตัว แต่ขอความร่วมมือประชาชนทุกคนเมื่อไปในสถานที่สาธารณะขอให้ใส่หน้ากากอนามัยถูกวิธี เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ล้างมือบ่อยๆ และสแกนไทยชนะ รวมถึง หากพบเห็นบุคคลในชุมชนที่กลับจากต่างประเทศและไม่ได้รับการกักตัว 14 วันขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที”นพ.โอภาสกล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงปลายพ.ย.- ธ.ค. 2563 ประเทศไทยมีเหตุการณ์ผู้ติดโควิด-19 จำนวน 3 เหตุการณ์ใน 8 จังหวัด โดยแต่ละจังหวัดจะคนบระยะ 14 วันของการกักตัวผู้สัมผัส ดังนี้
1.จ.เชียงราย พบติดโควิด-19นอกสถานที่กักกัน 17 ราย โดยล่าสุดเจอเมื่อวันที่ ดังนั้นหากนับจากรายที่เจอล่าสุด จะครบระยะ 14 วัน
2.จ.เชียงใหม่ 5 ราย เดินทางเข้าช่องทางธรรมชาติ ครบ14 วัน 19 ธ.ค.
3.กรุงเทพฯ 9 ราย โดย 3 ราย เดินทางเข้าช่องทางธรรมชาติ ครบ14 วัน 20 ธ.ค. และ 6 รายเป็นบุคลากรทางการแพทย์ใน ASQ นับจากรายสุดท้ายครบ 14 วัน 24 ธ.ค.
4.จ.พะเยา 1 ราย เดินทางเข้าช่องทางธรรมชาติ ครบ14 วัน 15 ธ.ค.
5.จ.พิจิตร 1 ราย เดินทางเข้าช่องทางธรรมชาติ ครบ14 วัน 15 ธ.ค.
6.จ.ราชบุรี 1 ราย เดินทางเข้าช่องทางธรรมชาติ ครบ14 วัน 16 ธ.ค.
7.จ.สิงห์บุรี 1 ราย ติดในประเทศจากการสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อในกลุ่มนี้ที่จ.เชียงราย ครบ14 วัน 18 ธ.ค.
8.อ.แม่สอด จ.ตาก 2 ราย เดินทางเข้าช่องทางธรรมชาติ รายล่าสุดครบ 14 วัน 19 ธ.ค.