‘ในหลวง-พระราชินี’ ทรงเปิดงาน ‘โครงการหลวง 2563’
“ในหลวง-พระราชินี” เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงาน “โครงการหลวง 2563” ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
วันนี้ (21 ธ.ค.63) เวลา 15.37 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังท่าอากาศยานทหาร ดอนเมือง เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงาน “โครงการหลวง 2563” ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยคณะข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ จากนั้น พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 กราบบังคมทูลเชิญเสด็จขึ้นแท่นรับการถวายความเคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นแท่นทรงรับการถวายความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ ต่อจากนั้น ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
เวลา 17.44 น.ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี ประธานกรรมการมูลนิธิโครงการหลวง ประธานการจัดงานโครงการหลวง 2563 พร้อมคณะองคมนตรี คณะกรรมการจัดงานข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ จากนั้น เสด็จเข้าห้องราชพฤกษ์ อาคารนิทรรศการ 1 พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง ประธานกรรมการอำนวยการจัดงานโครงการหลวง 2563 และนางมิ่งขวัญ วิชยารังสฤษฏ์ ประธานกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตร
ต่อจากนั้น นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี ประธานกรรมการมูลนิธิโครงการหลวง ประธานการจัดงานโครงการหลวง 2563 กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงาน “โครงการหลวง 2563” เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดงาน “โครงการหลวง 2563” จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรนิทรรศการต่าง ๆ ได้แก่ นิทรรศการคลังสมองโครงการหลวง “ภูมิปัญญาแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน” นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “จากดินแดนฝิ่นสู่..แผ่นดินทอง” เป็นนิทรรศการที่แสดงถึงประวัติความเป็นมาของโครงการหลวงตั้งแต่ปี 2512 จนถึงปัจจุบัน รวมถึงจัดแสดงภาพพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งโดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปทรงงานในพื้นที่ภาคเหนือ
ต่อมา ทอดพระเนตรฐานเรียนรู้ต่าง ๆ อาทิ ฐานเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจ จัดแสดงผลสำเร็จของโครงการหลวงในการพลิกฟื้นพืชเศรษฐกิจแทนพืชเสพติดด้วยระบบการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ฐานเรียนรู้ด้านสังคม นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยแพทย์อาสาที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ออกหน่วยเพื่อตรวจรักษาคนไข้ในเขตทุรกันดาร ด้านการศึกษา จัดแสดงรูปแบบการเรียนการสอนของโรงเรียนบ้านขอบด้ง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรและได้ให้วางรากฐานเกี่ยวกับความสำคัญกับเรื่องการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนชาวไทยภูเขาในพื้นที่
ต่อจากนั้น เสด็จออกจากห้องราชพฤกษ์ ทรงพระดำเนินไปทอดพระเนตรนิทรรศการ และฐานเรียนรู้ต่าง ๆ เพิ่มเติม อาทิ นิทรรศการสตรอว์เบอร์รี่พันธุ์พระราชทานโครงการหลวง นิทรรศการกัญชงของแม่และหัตถกรรมราชินีปักเมี่ยน เป็นนิทรรศการที่จัดแสดงพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สนับสนุนให้สืบทอดและรักษารูปแบบการปักผ้าของชนเผ่าเมี่ยน และการสนับสนุนให้กัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ นิทรรศการผลสำเร็จของงานวิจัยก่อเกิดพืชพันธุ์ใหม่ อาทิ ดอกเอเดลไวส์ มะเขือเทศเชอร์รี่สีเหลือง ผักคอส คีนัว เคพกูสเบอร์รี่ เป็นต้น
จากนั้น ทรงพระดำเนินไปทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตโครงการหลวง ได้แก่ พืชผลทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูป ได้แก่ ขนมปังจากผักปวยเล้ง ขนมปังฟักทอง ซอสพริก ไอศกรีม ข้าวเกรียบรสชาติต่าง ๆ ผลไม้สด อาทิ เคพกูสเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี พันธุ์พระราชทาน 80 เสาวรส ข้าว และธัญพืชต่าง ๆ ผักสดออร์แกนิค ปลาเรนโบว์เทราต์รมควัน และปลาสเตอร์เจียนรมควัน
นอกจากนี้ ยังมีการจำหน่ายดอกไม้ ที่ได้พัฒนาพันธุ์จากโครงการหลวงอาทิ ดอกกุหลาบพันธุ์ต่าง ๆ เสร็จแล้ว ประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังลานราชพฤกษ์ ทอดพระเนตรการแสดงดนตรีของจิตอาสาพระราชทาน และทอดพระเนตรการแสดงรำฟ้อนเล็บ เป็นศิลปะล้านนา จากช่างฟ้อนจิตอาสาอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ จากนั้น ประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ซึ่งมีราษฎรชาวไทยภูเขาชนเผ่าต่าง ๆ ที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงสืบสานรักษา และต่อยอดพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระบรมชนกนาถและพระบรมราชชนนี ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวไทยภูเขาให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยการส่งเสริมอาชีพที่มั่นคง ทดแทนการปลูกพืชเสพติดในอดีต จำนวน 18 ชนเผ่า อาทิ ชนเผ่าม้ง จากอำเภอหางดง ชนเผ่าปกาเกอญอ จากอำเภอแม่วาง ชนเผ่าละหู่ และชนเผ่าดาราอั้ง จากอำเภอฝาง เป็นต้น ต่างพร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดประจำชนเผ่าอย่างสวยงามเพื่อเป็นการถวายพระเกียรติ มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ด้วยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้มาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในการนี้ด้วย
สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน41 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงเสด็จขึ้นแท่นรับการถวายความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ จากนั้นประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร ในโอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กองแพทย์หลวงร่วมกับโรงพยาบาล และหน่วยแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ มอบพิมเสนน้ำและผ้าเย็นแก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ รวมทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกใหม่ ถูกสุขอนามัย พระราชทานเลี้ยงแก่ราษฎร ยังความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น