ย้ำห้ามไม่ให้มีการชุมนุม สุ่มเสี่ยงโควิด-19
ย้ำพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห้ามไม่ให้มีการชุมนุม ทั้งประเทศ เหตุสุ่มเสี่ยงการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ย้ำใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากชนิดไหนยังใช้ได้ ป้องกันโรคได้
จากการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 33 จังหวัด ราชกิจจานุเบกษา ได้มีการแผยแพร่ ประกาศ จัดตั้งศูนย์ ศปก.มท. ของกระทรวงมหาดไทย เพิ่มเติมหน่วยงานขึ้นมาอีกศูนย์หนึ่ง โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าศูนย์ศบค.ได้แบ่งงานออกอีกศูนย์หนึ่ง จากเดิมที่มี 6 ศูนย์ โดยมีข้อกำหนดออกมาว่า ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด มีอำนาจ พิจารณาสั่ง เปิด-ปิด สถานที่ หรือการสัญจรไปไหน มาไหน ของพี่น้องประชาชนได้ หากพบการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งตอนนี้ ออกเป็นข้อกำหนดไปแล้ว และในประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังมีข้อกำหนดสำคัญ คือ ห้ามไม่ให้มีการชุมนุม ตอนนี้ คือ ห้ามการชุมนุมทั้งประเทศ เพราะเป็นการสุ่มเสี่ยงการแพร่กระจายของโรคโควิด-19
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.กล่าวว่ากรณี ตรวจเจ้าหน้าที่ ทำเนียบรัฐบาล 6 ราย ใช้การตรวจแบบ rapid test (เจาะเลือดปลายนิ้วมือ) ไม่ใช่ swap (ตรวจเชื้อในโพรงจมูก) แล้วตอนแรกผลออกมาว่าเป็นบวก แต่พอตรวจแบบโพรงจมูกกลับไม่ติดเชื้อ อีกทั้งไม่ใช้การตรวจหาเชื้อที่โพรงจมูกแต่แรก การตรวจ rapid test คือเจาะเลือด ตรวจหาภูมิคุ้มกันในร่างกาย ไม่ได้การตรวจหาเชื้อโดยตรง ซึ่งการตรวจแบบ swap หรือการแยงเข้าไปในโพรงจมูก ซึ่งวิธีนี้ จะเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า มีการกำหนดให้ตรวจการเจาะเลือดขึ้นมา หลังการตรวจแบบโพรงจมูก เมื่อตรวจแล้วผลไม่พบเชื้อ ก็สบายใจขึ้น อย่างไรก็ตาม ก็จะมีการทบทวนวิธีการตรวจอีกครั้ง
ทั้งนี้ สำหรับกรณีที่มีการแชร์ข้อมูลในโซเชียลฯว่าให้งดใส่หน้ากากผ้าทุกชนิด เพราะป้องกันอะไรไม่ได้ ให้ไปใส่หน้ากากอนามัย หรือแบบ N95 แทนนั้น ขอย้ำว่าไม่ว่าจะใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากชนิดไหน ก็ยังใช้ได้อยู่ ผมเองก็ใช้นะครับหน้ากากผ้า เพราะละอองฝอยจากการพูดคุยยังก้อนใหญ่กว่าละอองแอร์บอน ทั่วไปจากการไอ ใส่หน้ากากผ้าอย่างนี้ ถือว่า มีดีกว่าไม่มี ตอนนี้มีอะไร ก็ใส่ป้องกันการติดเชื้อ เอาไว้ก่อน ดีกว่าไม่ใส่อะไร