ยังวางใจไม่ได้ แม้ผลรอบแรก "อนุทิน"ไม่พบโควิด-19
ผลตรวจโควิด-19รอบแรก "อนุทิน" ผลเป็นลบ กักตัวอยู่บ้าน 14 วัน รอตรวจซ้ำในอีก 3 วันข้างหน้า ส่วนอธิบดีทุกกรมสังกัดสธ.ตรวจหาเชื้อแล้ว อยู่ระหว่างรอผล หลังยกทีมลงพื้นที่จ.สมุทรสาคร 27 ธ.ค.ประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ว่าฯ
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 28 ธ.ค.2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมช.สธ.) แถลงข่าวว่า ผลการตรวจโควิด-19ของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครยืนยันติดโควิด-19 ซึ่งเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2563 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไปลงพื้นที่ไปทำกิจกรรมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นการบริโภคกุ้งและเตรียมความพร้อมรพ.สนาม พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งรองนายกฯได้เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ว่าฯ จึงได้ปฏิบัติตามมาตรการของกรมควบคุมโรค ด้วยการกักตัวเองที่บ้าน และเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งส่งตรวจแล้ว ผลเบื้องต้นเป็นลบ แต่ท่านจะมีการกักตัวเองจนครบ 14 วัน และตรวจหาเชื้ออีกครั้งในอีก 3 วันข้างหน้า เป็นไปตามหลักวิชาการที่ระยะฟักตัวจะอยู่ในช่วง 3-7 วันหลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ จากนี้ท่านจะใช้การสั่งงานผ่านไลน์ และประชุมผ่านระบบออนไลน์ต่างๆ และท่านจะแจ้งไทม์ไลน์ด้วยตัวเองผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว
“สถานการณ์ตอนนี้ต้องระมัดระวังพิเศษในการป้องกันตัวเองและปฏิบัติตามมาตรการของกรมควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด จะเป็นการช่วยประเทศได้มาก ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมีการทำงานอยู่หน้างานอย่างหนัก จึงอยากเชิญชวนคนไทยให้กำลังใจและสร้างขวัญให้กับเจ้าหน้าที่ด้วยการติดแฮชแท็ก #Saveคนทำงานสู้โควิด ในโซเชียลมีเดีย”นายสาธิตกล่าว
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า ผลการตรวจเชื้อรอบแรกของรองนายกฯผลเป็นลบไม่ติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม การตรวจครั้งแรกหลังจากสัมผัสผู้ติดเชื้อมาเพียง 1 วัน อาจเป็นการตรวจที่เร็วเกินไปจะต้องมีการตรวจซ้ำอีกในอีก 3-5 วันหลังมีการใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ แต่การตรวจวันแรกนั้นมีความสำคัญเนื่องจากจะทำให้แน่ใจว่าไม่ได้มีการติดเชื้อมาก่อน ทำให้ครอบครัว คนใกล้ชิดและบุคคลรอบข้างก่อนที่ท่านจะกักตัวเองหลังลงพื้นที่จะได้สบายใจว่าไม่ติดเชื้อมาก่อนและไม่แพร่เชื้อ
“ขณะที่ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขที่ร่วมลงพื้นที่ได้มีการเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งเพื่อตรวจหาเชื้อแล้ว อยู่ระหว่างรอผล ส่วนผู้บริหารฯใครจะต้องมีการกักตัวเองบ้างจะต้องดูว่าเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงหรือไม่ แต่ก็จะต้องมีการใส่หน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่าง และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค แต่ระหว่างการลงพื้นที่เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดฯมีการใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาและเป็นชนิด N95 ทำให้ความเสี่ยงน้อยลง “นพ.โอภาสกล่าว
นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า นิยามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่กรมบอกมาตลอดแล้ว มีการไอจามรดกัน พูดคุยในระยะ 1 เมตร โดยไม่สวมหน้ากาผ้าหน้ากากอนามัย อยู่ในสถานที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เช่น รถตู้หรือห้องประชุมโดยนั่งระยะห่างช่วงไม่เกิน 5 เมตร นานกว่า 15 นาที ถ้าไม่ใส่หน้ากากอนามัยยิ่งเสี่ยงสูง ซึ่งได้มีการไล่ดูภาพและวิดีโออย่างละเอียดเพื่อดูว่าผู้บริหารท่านใดเสี่ยงสูงเสี่ยงต่ำ โดยผู้เสี่ยงสูงต้องกักตัวเอง 14 วันและตรวจหาเชื้อ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำต้องเฝ้าสังเกตอาหารตัวเอง เว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และล้างมือบ่อยๆ ทั้งนี้ ผู้ที่ถือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่สุด คือคนในครอบครัว ซึ่งมีโอกาสติดเชื้อ 40 % ซึ่งได้มีการตรวจหาเชื้อในสมาชิกครอบครัวผู้ว่าฯแล้ว ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงบอื่นๆ โอกาสติดเชื้อ 10% และกลุ่มอื่นๆโอกาสติดเชื้ 1 %
“กรณียืนยันว่าไม่มีการปกปิดข้อมูลโดยเด็ดขาด หากมีผู้บริหารท่านไหนติดเชื้อ ก็จะมีการรายงานอย่างตรงไปตรงมาว่าติดเชื้อ เพราะการปิดข้อมูลจะทำให้การควบคุมโรคล่าช้า”นพ.โอภาสกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการลงพื้นที่ของผู้บริหารสธ.มีการรับประทานอาหารร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครหรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า ไม่ได้มีการรับประทายอาหารร่วมกัน และผู้ว่าฯออกจากห้องประชุมก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงาน ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขที่ลงพื้นที่พร้อมนายอนุทิน ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค อธิบดีกรมอนามัย อธิบดีกรมการแพทย์ อธิดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ อธิบดีกรมสุขภาพจิต อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งเท่ากับอธิบดีทุกกรมลงพื้นที่ทั้งหมด แต่ระดับความเสี่ยงและการสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อแตกต่างกันไป