ผู้ว่าฯกาญจนบุรี ประกาศคำสั่งค.กก.โรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี เพิ่มอีก 2 ฉบับ
ผู้ว่าฯกาญจนบุรี ประกาศคำสั่งค.กก.โรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี เพิ่มอีก 2 ฉบับ ฉบับแรก จัดระเบียบเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณคอสะพานข้ามแม่น้ำแคว ตามแนวทางสนับสนุนการท่องเที่ยวแบบ New Normal อีกฉบับ มาตรการควบคุมตลาด ตลาดน้ำและตลาดนัด
เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ 30 ธ.ค.63 นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี/ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี/ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ได้ประกาศคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี เพิ่มอีก 2 ฉบับ ฉบับแรกคือคำสั่งที่ 5534/2563 เรื่องมาตรการควบคุมตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)
โดยระบุว่า ด้วยสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มที่จะพบการแพร่ระบาดไปยังผู้ติดเชื้อรายใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานต่างด้าว และสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมจำกัดวงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) อาศัยอำนาจตามมาตร 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และข้อ 7 (1)
ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี และมติที่ประชุมคณะกรรการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ครั้งที่ 4/2563 เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2563 และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 15) ลงวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2563 จึงกำหนดมาตรการควบคุมตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด ดังต่อไปนี้
1. ให้เว้นระยะห่างของแผง ระยะนั่งหรือยืน ระยะห่างในการเลือกสินค้า และการชำระราคาห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร 2. ให้ผู้ประกอบการ และผู้ใช้บริการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าเสมอ 3. ให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
4. ให้มีการควบคุมทางเข้า - ออก และมีมาตรการคัดกรองอาการป่วย ไข้ ไอ จาม หรือเป็นหวัด สำหรับผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการตามขีดความสามารถ 5. ทำความสะอาดพื้น พื้นผิวสัมผัสบ่อย ๆ ทั้งก่อนและหลังการให้บริการ และให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน
6..ให้ควบคุมจำนวนผู้ร่วมกิกรรมมิให้แออัดหรือลดเวลาในการทำกิจกรรมให้สั้นลงเท่าที่จำเป็น โดยถือหลักหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน 7. ไม่อนุญาตการให้บริการเครื่องเล่นสำหรับเด็ก และ 8. เพิ่มมาตรการใช้แอปพลิเคชัน ติดตามตัวทางโทรศัพท์เคลื่อนที่มาใช้ได้ตามความเหมาะสม และความจำเป็น หรือใช้มาตรการควบคุมด้วยการบันทึกข้อมูล
ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และหากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการจะถูกสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวเนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารรณชน หรืผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรค 2 (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ฉบับที่สอง คือคำสั่งที่ 5536 เรื่อง การดำเนินการตามมาตรการป้องกันเ ฝ้าระวัง และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และจัดระเบียบเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ บริเวณพื้นที่คอสะพานข้ามแม่น้ำแคว ตามแนวทางสนับสนุนการท่องเที่ยวแบบ New Normal
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี โดยความเห็นชอบคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี และความเห็นชอบของผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ในการจัดระเบียบและปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณพื้นที่คอสะพานข้ามแม่น้ำแคว จังหวัดกาญจนบุรี และข้อกำหดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 15) ลงวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2563
จึงกำหนดให้ผู้ประกอบการค้า ซึ่งอาศัยพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าและอาหารแก่นักท่องเที่ยว ได้ให้ความร่วมมือในการเข้าจำหน่ายสินค้าภายในซุ้มที่จังหวัดได้จัดเตรียมไว้บริเวณคอสะพานข้ามแม่น้ำแคว จังหวัดกาญจนบุรีเท่านั้น โดยให้ดำเนินการ ดังนี้
1. ให้เว้นระยะห่างของซุ้มขายของ ห่างกันไม่ต่ำกว่า 5 เมตร และเว้นระยะนั่งหรือยืนระยะห่างในการเลือกซื้อสินค้า และการชำระราคา ห่างกันไม่ต่ำกว่า 2 เมตร ตามมาตรการรักษาระยะห่าง Social Distancing
2. ให้ผู้ประกอบการ และผู้ใช้บริการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าเสมอ
3. ให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
4. ให้มีการควบคุมทางเข้า - ออก และมีมาตรการคัดกรองอาการป่วย ไข้ ไอ จาม หรือเป็นหวัด สำหรับผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการตามขีดความสามารถ
5. ทำความสะอาดพื้น พื้นผิวสัมผัสบ่อย ๆ ทั้งก่อนและหลังการให้บริการ และให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน 6. เพิ่มมาตรการใช้แอปพลิเคชั่น ติดตามตัวทางโทรศัพท์เคลื่อนที่มาใช้ได้ตามความเหมาะสม และความจำเป็น หรือใช้มาตรการควบคุมด้วยการบันทึกข้อมูล
ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ จะมีลงโทษ เช่นเดียวกับคำสั่งฉบับแรกคือคำสั่งที่ 5534/2563 เรื่องมาตรการควบคุมตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ทั้งนี้มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง