อุบัติเหตุปีใหม่3วัน ดับ186ราย 'เมาขับ' อันดับ1

อุบัติเหตุปีใหม่3วัน ดับ186ราย 'เมาขับ' อันดับ1

ศปถ.สรุปอุบัติเหตุ3วันฉลองปีใหม่ ดับ186 ราย ส่วนใหญ่เมาแล้วขับ17จังหวัดตายเป็นศูนย์

1 มกราคม 2564 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นพ.ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรคเป็นประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 โดยกล่าวว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการรณรงค์ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุเกิดอุบัติเหตุ 652 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 67 ราย ผู้บาดเจ็บ 642 คน

สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 38.04 , ขับรถเร็ว ร้อยละ 34.36 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 85.95 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 63.65 ถนนกรมทางหลวงร้อยละ 33.59 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 38.04 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 . ร้อยละ 29.75  ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 25.81

ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,914 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 61,613 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 417,876 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 79,851 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 23,295 ราย ไม่มีใบขับขี่ 19,877 ราย

 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (27 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา (7 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (27 คน)

สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 3 วันของการรณรงค์ (29 -31 ธันวาคม 2563) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,652 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 186 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 1,654 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 17 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (63 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา (13 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (68 คน)

รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อว่า ในวันนี้ประชาชนยังคงเฉลิมฉลองและเดินทางท่องเที่ยวอยู่ ในพื้นที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จึงได้ประสานจังหวัดเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินงานของด่านชุมชนและจุดสกัดตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนควบคู่กับการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เน้นการเรียกตรวจยานพาหนะและความพร้อมของผู้ขับขี่รวมถึงคัดกรองวัดไข้ประชาชนก่อนเข้าพื้นที่

นอกจากนี้ จากสถิติอุบัติทางถนนในช่วง 3 วันที่ผ่านมา (29-31 ธันวาคม 2563) พบว่า พฤติกรรมเสี่ยงดื่มแล้วขับเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด จึงได้ประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายควบคุมการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งเวลาจำหน่าย สถานบริการ และควบคุมไม่ให้มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่เด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนจากการดื่มแล้วขับ  

ด้านนายชัยณรงค์ วาสนะสมสิทธิ์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 ได้ประสานจังหวัดดำเนินมาตรการป้องกันในมิติเชิงพื้นที่อย่างเข้มข้นเน้นการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ขับขี่ที่ใช้ความเร็วเกินกำหนด ดื่มแล้วขับ และกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย และคุมเข้มการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในกลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีอย่างเคร่งครัด

รวมถึงดูแลเส้นทางสายรอง และเส้นทางโดยรอบสถานที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะเส้นทางสถานที่ท่องเที่ยวบนยอดดอยและยอดภู ซึ่งระยะนี้สภาพอากาศหนาวเย็นและมีหมอกปกคลุมเส้นทาง ทั้งนี้ เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดแก่ประชาชน