ร้อยเอ็ดปลอดโควิด! รักษาคนมาจากพัทยาหายแล้ว ให้กลับบ้านเฝ้าดู 14 วัน
สถานการณ์โควิด-19 ร้อยเอ็ด ล่าสุดปลอดโควิด หลังรักษาคนมาจากพัทยาหายแล้ว ให้กลับบ้านกักตัว เฝ้าดูทั้งครอบครัว 14 วัน
นายแพทย์ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลร้อยเอ็ด แถลงข่าว เช้าวันนี้ 4 มกราคม 2564 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมพุทธรักษา ชั้น 6 อาคารเฉลิมพระเกียรติจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด
จากกรณีที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพศชาย อายุ 33 ปี ทำงานที่มีบุคลากรทางการแพทย์ ทำงานคลินิกเอกชนแห่งหนึ่งในบางละมุง พัทยา เดินทางมายังจังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 3566 โดยโรงพยาบาลร้อยเอ็ดได้รับแจ้งจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี และโรงพยาบาลร้อยเอ็ดได้รับตัวผู้ป่วยและพ่อ-แม่ ผู้สัมผัสใกล้ชิดเข้ารักษา และสังเกตอาการ ในรพ. ซึ่ให้ทีมแพทย์และสาธารณสุขได้ดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดในห้องความดันลบ ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2563 เป็นต้นมานั้น
วันนี้ นายแพทย์ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล แพทย์ผู้รักษาได้แถลงว่า จากการตรวจ ครั้งล่าสุด อาการผู้ติดเชื้อพบว่า กลับสู่สภาวะปกติ ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการก็ไม่พบเชื้อโควิด จึงวางแผนจำหน่ายกลับบ้าน พร้อมบิดา และมารดา ให้กลับไปกักตัวที่บ้าน จนถึงวันที่ 13 มกราคม 2564
ด้านแพทย์หญิงนภัสวรรณ์ ภูริพันธุ์ภิญโญ รองผู้อำนวยการด้านปฐมภูมิ กล่าวยืนยันว่า อยากแจ้งข่าวให้ชุมชนไม่ต้องกังวล เนื่องจากผู้ติดเชื้อไม่มีเชื้อในร่างกาย และ สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติแล้ว แต่การปล่อยตัวกลับ ยังกำชับให้ใช้ชีวิต ตามมาตรการกินร้อน ช้อนกลางส่วนตัว ล้างมือ ปิดหน้ากาก 100 % เมื่อออกนอกบ้าน ส่วนผู้ที่ติดเชื้อ และครอบครัว ให้กักตนเองในบ้าน ห้ามออกนอกบ้าน ซึ่งจะสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2564 เป็นต้นไป
นายแพทย์ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลร้อยเอ็ด กล่าวว่า เพื่อให้ผู้ป่วยอยู่ในสังคมได้โดยไม่ถูกรังเกียจ ทางรพ.จะออกใบรับรองว่าหายขาดไม่มีเชื้อดังกล่าวแล้ว ให้นำติดตัวกลับไป เพื่อให้แสดงยืนยันรับรองตัวเองกับคนในหมู่บ้าน เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ และเพื่อป้องกันชาวบ้านยังรังเกียจและกังวลสงสัย แต่ไม่กล้าขอดูใบรับรอง เพราะเกรงจะติดโรค ทาง ผอ.รพ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า จะแนะนำครอบครัวผู้ป่วย นำเอกสารรับรองดังกล่าว ไปถ่ายเอกสารขยาย ติดไว้หน้าบ้าน ให้เห็นชัดเพื่อคลายความสงสัย และลดความกังวลรังเกียจลงให้อยู่ร่วมกับสังคมได้ ด้วยความมั่นใจต่อไป