จ่อ! คืนเงิน-เลื่อนตั๋ว ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ย้ำไม่เก็บภาษี 'คนละครึ่ง'

 5 ม.ค. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า มาตรการที่จะต้องดำเนินการในช่วงการระบาดระลอกใหม่ ซึ่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ประกาศมาตรการปฏิบัติการปฏิบัติ 8 ข้อ ไปแล้วตามพื้นที่ต่างๆนั้น โดยแบ่งเป็น พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุดและพื้นที่เฝ้าระวัง ซึ่งอาจทำให้บางคนสับสนในการนำให้มาตรการมาปฏิบัติ

จึงต้องขอเรียนว่า มาตรการในส่วนของ ศบค.ให้ถือว่าเป็นมาตรการจากส่วนกลาง โดยได้ให้อำนาจแต่ละจังหวัดในการพิจารณาเพิ่มเติมและจัดสรร วิธีการดำเนินการภายในแต่ละจังหวัด หากต้องมีความเข้มงวดอะไรเพิ่มเติมจากมาตรการของศบค.ในกรณีนี้ ให้ใช้มาตรการเข้มงวดนั้นเป็นหลัก แต่หากในส่วนของจังหวัดที่มีการออกมาตรการที่หย่อนยานกว่าที่ ศบค.กำหนด ก็ให้ใช้มาตรการของศบค.เป็นหลัก และขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในแต่ละวัน

ส่วนประเด็นความสับสนในเรื่องมาตรการหรือโครงการที่รัฐบาลได้ออกไปก่อนหน้านี้ เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่อาจจะมีการยกเลิกหรือเลื่อนการเข้าพักโรงแรมหรือที่พักอาศัยต่างๆ ทางกระทรวงการคลัง ได้เจรจากับกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมไทย เพื่อขอให้พิจารณาเรื่องการคืนเงินให้แก่ประชาชนที่มีการจองไว้ก่อนหน้านี้

หรือแม้กระทั่งการขอเลื่อนการเข้าพักให้สามารถดำเนินการโดยง่าย ทั้งนี้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบธนาคารกรุงไทยซึ่งเป็นผู้ดูแลโครงการ ก็ได้ขอให้มีการปรับปรุงบางส่วนของระบบ ให้สามารถรองรับการเข้าใช้ อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต

ส่วนโครงการคนละครึ่งที่หลายส่วนมีความกังวลว่าจะต้องมีการเสียภาษีเนื่องจากเป็นการได้มาซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งนั้น ได้รับการยืนยันจากกระทรวงการคลังแล้วว่า จะไม่นำมาเสียภาษีหรือนำมาคิด เป็นภาษีรายได้ จึงขอให้ทุกคนคลายกังวล 

สำหรับการเยียวยาในอนาคต กระทรวงแรงงานได้ออกประกาศไปเมื่อวาน(วันที่ 4 มกราคม) ถึงการลดอัตราการสมทบเงินกองทุน ซึ่งเป็นทั้งส่วนของนายจ้างและผู้ประกันตน นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการจ่ายสิทธิประโยชน์ ชดเชยการว่างานจากเหตุสุดวิสัย สำหรับลูกจ้างที่มีการประกันตนและมีเงินสมทบครบ 6 เดือน ใน 15 เดือนที่ผ่านมา โดยจะได้รับสิทธิ์ทดแทนอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวัน ตลอดระยะเวลาการกักตัวแล้วแต่กรณี โดยสามารถดูรายละเอียดและกรอกข้อมูลได้ในเว็บไซต์กระทรวงแรงงาน โดยยืนยันว่ามาตรการดังกล่าวใช้ครอบคลุมทั่วประเทศ ไม่ใช่เพียง 28 จังหวัดในพื้นที่ควบคุมสูงสุด