สยามพิวรรธน์ หนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนสู่'องค์กรขยะเป็นศูนย์'
การขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรที่ไม่ใช้แล้ว เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกในประเทศไทยอย่างยั่งยืน เป็นพันธกิจสำคัญขององค์กรภาครัฐและเอกชนในการร่วมด้วยช่วยกันสร้างสมดุลด้านสิ่งแวดล้อม
ชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของ “ไอคอนสยาม” และ สยามพรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กล่าวว่า สยามพิวรรธน์ มุ่งพัฒนาศักยภาพของคน ผ่านการนำภูมิปัญญาไทย และความคิดสร้างสรรค์ส่งต่อประโยชน์ในวงกว้าง โดยใช้พื้นที่ในโครงการของสยามพิวรรธน์เป็นเวทีนำเสนอสินค้าและบริการหลากหลายประเภท พร้อมช่วยพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อยแบบครบวงจร ไม่เพียงนำพาความสะดวกเข้าไปส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ชุมชนโดยรอบโครงการ แต่ยังดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม อำนวยความสะดวกเพื่อคนทั้งมวลด้วยการสร้างพื้นที่ตามแนวคิดอารยสถาปัตย์ (Universal Design)
โครงการที่สยามพิวรรธน์ริเริ่มเพื่อพัฒนาศักยภาพคนและได้บรรจุเข้าไปในกระบวนการดำเนินธุรกิจ อาทิ “ไอคอนคราฟต์” พื้นที่สนับสนุนส่งเสริมผลงานจากช่างฝีมือไทยทั่วประเทศที่ใหญ่ที่สุด พร้อมเชิดชูภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยในมุมมองใหม่ลงบนงานหัตถศิลป์ “สุขสยาม” เวทีสร้างโอกาสในการดำเนินธุรกิจและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการท้องถิ่นสู่ความยั่งยืน พร้อมเชิดชูความสามารถและผลักดัน ปั้น “Local Heroes” ให้กลายเป็น “Global Heroes”
รวมทั้ง O.D.S. (Objects of Desire Store) พื้นที่สนับสนุนผลิตภัณฑ์และงานออกแบบที่โดดเด่นของดีไซเนอร์ไทยชั้นนำที่ชนะรางวัลระดับนานาชาติ และโซน “Made By Beautiful People” พื้นที่แห่งความคิดสร้างสรรค์ ของเหล่าผู้มีความสามารถในการออกแบบและผลิตสินค้า ไม่ว่าจะเป็นผู้พิการ ผู้ทุพพลภาพ เด็กพิเศษ หรือผู้ด้อยโอกาส เป็นต้น
ความจริงจังและความสำเร็จสะท้อนผ่านรางวัลมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Responsible Business Leadership ที่ ชฎาทิพ ย้ำว่า เป็นรางวัลของทุกคนในบริษัทสยามพิวรรธน์ ที่ร่วมกันทำหน้าที่ตามปณิธานหลักของบริษัท คือ การพัฒนาโครงการให้เป็นรูปแบบธุรกิจเพื่อส่วนรวมที่สร้างคุณค่าต่อผู้คน ชุมชนสังคมและประเทศชาติ โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยใช้ กลยุทธ์ “ร่วมกันรังสรรค์ (Co-creation) และการสร้างคุณค่าสมประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย (Creating Shared Values)” ซึ่งได้บรรจุเข้าไปในกระบวนการดำเนินธุรกิจ ซึ่งให้ความสำคัญใน 3 มิติ คือ ผู้คน ชุมชนสังคม และสิ่งแวดล้อม
“เราไม่ได้ทำกิจกรรมเพื่อสังคมเป็นครั้งคราว แต่เราได้ปลูกฝังเข้าไปอยู่ในการดำเนินธุรกิจทุกๆ วัน”
บนเวทีเดียวกันนี้ สยามพิวรรธน์ ยังคว้ารางวัล “Green Leadership” ในฐานะองค์กรที่มีนโยบายดูแลรักษาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพในทุกๆ พื้นที่ที่ได้เข้าไปดำเนินธุรกิจด้วยการจัดทำนโยบาย และวางแผนแนวทางปฏิบัติในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจนตั้งแต่แรกเริ่มและถูกดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมขยายผลด้วยการบรรจุแนวคิดการดูแลรักษา และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้เข้าไปอยู่ในกระบวนการดำเนินธุรกิจในทุกวัน เช่น การใช้ “สยามดิสคัฟเวอรี่” เป็นต้นแบบที่สร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ที่สนับสนุนให้คนใช้ชีวิตอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ อีโค่โทเปีย (ECOTOPIA) พื้นที่สร้างสรรค์จากกลุ่มคนรักษ์โลกตัวจริงที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์รักษ์โลกกว่า 300 แบรนด์ ตั้งแต่สินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน สินค้าที่สามารถนำบรรจุภัณฑ์มารีฟิลล์เพื่อช่วยลดขยะให้กับโลก อาหารเพื่อสุขภาพที่คัดเลือกวัตถุดิบออร์แกนิคจากธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์ที่ถูกนำมารีไซเคิลใหม่ งานฝีมือและภูมิปัญญาชาวบ้านที่สร้างสรรค์จากวัตถุดิบธรรมชาติเพื่อสร้างรายได้กลับคืนสู่ชุมชนและชาวบ้าน
"เป็นคอมมูนิตี้ที่ชวนให้ทุกคนมาเริ่มเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและสร้างปรากฎการณ์รักษ์โลกไปด้วยกัน ซึ่งเป็นต้นแบบที่แสดงการใช้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนได้อย่างเป็นรูปธรรม เพราะสยามพิวรรธน์เชื่อว่า เราสร้างโลกให้ดีขึ้นได้ด้วยกัน Together, We Co-Create a Better World”
สยามพิวรรธน์ พร้อมขยายผลต่อยอดจากการได้รับรางวัล Green Leadership ด้วยการยกระดับการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยส่งเสริมหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน พร้อมตั้งเป้าสู่การเป็นองค์กรต้นแบบของการจัดการขยะเป็นศูนย์ (zero waste) โดยสามารถจัดการขยะได้แบบ 360 องศา เพื่อสร้างความสมดุลด้านสิ่งแวดล้อมและแก้ไขปัญหาการจัดการขยะพลาสติกในประเทศไทยอย่างยั่งยืน
นราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานปฏิบัติการ กล่าวเสริมว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ทวีความรุนแรงขึ้นในปัจจุบัน เป็นหน้าที่ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันรับผิดชอบ กว่า10 ปีที่ผ่านมา สยามพิวรรธน์ ได้นำหลักการ 3Rs “Reduce-Reuse-Recycle” มาใช้ในการสร้างระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมในโครงการ โดยเฉพาะเรื่องการบริหารจัดการขยะ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ที่มีการลงมือทำอย่างจริงจัง
ปีนี้ สยามพิวรรธน์ ได้ยกระดับการจัดทำแผนบริหารจัดการขยะแบบ 360 องศา เพื่อเป้าหมาย “การจัดการขยะเป็นศูนย์ (zero waste)” เริ่มตั้งแต่การรณรงค์ให้ลูกค้าและประชาชนเห็นความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อม เข้าใจและเรียนรู้ที่จะคัดแยกขยะ การสร้างระบบคัดแยกขยะที่ครบวงจร เพื่อส่งต่อไปรีไซเคิลให้กลายเป็นวัตถุดิบ จนนำมาเข้ากระบวนการอัพไซคลิ่งเพิ่มมูลค่าได้
โดยมีการดำเนินโครงการ “ส่งพลาสติกกลับบ้าน” ร่วมกับ เครือข่ายความยั่งยืนแห่งประเทศไทย (TRBN) สร้างโมเดลต้นแบบการเรียกคืนขยะพลาสติกที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับประชาชนเพื่อทำการแยก ทำความสะอาด ขยะพลาสติกประเภทต่างๆ จากที่บ้านแล้วนำมาหยอดในจุดบริการที่สยามพิวรรธน์จัดให้
โครงการ “มือวิเศษ x ถังวน” ร่วมกับ พีพีพี พลาสติก (PPP Plastics) ที่เปิดให้ประชาชนนำขยะพลาสติกประเภทยืดมาส่งคืนให้นำกลับไปรีไซเคิล
โครงการ “Recycle Collection Center” ร่วมกับ TRBN จัดทำจุด Drop-Off Point ขยะประเภทต่าง ๆ ที่สามารถนำไปรีไซเคิล โดยเปิดให้ประชาชนสามารถนำขยะที่คัดแยกขยะแล้วมาทิ้งที่ Recycle Collection Center แห่งนี้ ซึ่งความโดดเด่นและพิเศษของศูนย์นี้คือการที่จุด Drop-Off Point ผลิตจากกระบวนการอัพไซคลิ่ง เป็นความร่วมมือของบริษัท เบสท์โพลิเมอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ บริษัท ดั๊ก ยูนิต จำกัด พร้อมได้รับการสนับสนุนจากเจ้าของแบรนด์ชั้นนำ กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย บริษัท คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เต็ดตราแพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)
“เราตั้งใจให้ศูนย์นี้เป็นต้นแบบที่จะส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักจัดการทรัพยากรที่ไม่ใช้แล้ว และนำมาส่งมอบให้กับศูนย์รีไซเคิล หรือ เจ้าของแบรนด์สินค้าต่างๆ เพื่อนำกลับไปรีไซเคิลต่อไป”
ทั้งนี้ การคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง คือจุดเริ่มต้นวงจรการจัดการขยะที่สมบูรณ์ ซึ่งในขั้นตอนหลังจากที่ได้ทำการคัดแยกขยะแล้ว สยามพิวรรธน์จะทำการส่งต่อขยะเหล่านี้ไปเข้ากระบวนการรีไซเคิล ด้วยการเชื่อมโยงกับ “ร้านรับซื้อขยะ” หรือ “ศูนย์รีไซเคิล” ให้พบกับพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง หรือบริษัทผู้ผลิตแบรนด์ชั้นนำ อาทิ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ จีซี ที่จะนำขยะพลาสติกประเภท PET และ PE เข้าสู่ขั้นตอนของการผลิตวัตถุดิบเพื่อจำหน่ายต่อให้กับผู้ผลิตสินค้าจากวัสดุรีไซเคิล เพื่อเข้ากระบวนการอัพไซคลิ่ง และดีไซน์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือ บริษัท เบสท์ โพลิเมอร์ ที่จะนำขยะพลาสติกประเภท Multi-layer ไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์ “อัพไซคลิ่ง” เหล่านี้บางส่วนจะถูกนำมาจำหน่ายในพื้นที่สำหรับสินค้ารักษ์โลก “อีโค่โทเปีย” ที่ สยามดิสคัฟเวอรี่