'การบินไทย' ตัดขายหุ้น BAFS 15.53% ได้เงินต่อชีวิตกว่า 2,700 ล้าน
"การบินไทย" (THAI) ตัดขายหุ้น BAFS ให้ RATCH 15.53% ได้เงินต่อชีวิตกว่า 2,700 ล้านบาท
วันนี้ (19 ม.ค.) นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร กรรมการบริษัท และรักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ที่ประชุมคณะผู้ทำการแทนของบริษัทฯ ได้อนุมัติการขายหุ้น บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) จำนวน 98,983,125 หุ้น หรือ 15.53% ให้กับ บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) ในราคาหุ้นละ 27.40 บาท คิดเป็นมูลค่า 2,712,137,625 บาท และได้โอนหุ้นครบถ้วนแล้วเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2564 โดยการซื้อขายหุ้น BAFS ครั้งนี้ ศาลล้มละลายกลางได้มีคําสั่งอนุญาตให้ดําเนินการได้ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2563
ก่อนการโอนหุ้นในวันที่ 19 ม.ค. BAFS เป็นบริษัทร่วมที่บริษัทการบินไทย ถือหุ้นในจํานวน 143,983,125 หุ้น (หรือคิดเป็นสัดส่วน 22.59% ของหุ้นที่ชําระแล้วทั้งหมดของ BAFS) โดย BAFS ประกอบธุรกิจหลักในการให้บริการระบบจัดเก็บและเติมน้ำมันอากาศยานในท่าอากาศยานต่าง ๆ ในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการทํารายการ โอนหุ้น BAFS แล้วเสร็จ บริษัทฯ จะยังคงถือหุ้นใน BAFS ใน จํานวน 45,000,000 หุ้น (หรือคิดเป็นสัดส่วน 7.06% ของหุ้นที่ชําระแล้วทั้งหมดของ BAFS)
ทั้งนี้ การเข้าทํารายการดังกล่าวเข้าข่ายเป็นรายการจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ตามประกาศ คณะกรรมการกํากับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทํารายการที่มีนัยสําคัญที่เข้าข่ายการได้มา หรือจําหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน (รวมถึงประกาศที่แก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจําหน่ายไป ซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 (รวมถึงประกาศที่แก้ไขเพิ่มเติม)
โดยเมื่อคํานวณขนาดรายการตามเกณฑ์มูลค่ารวมสิ่ง ตอบแทนพบว่าขนาดรายการสูงสุดเท่ากับ 0.91% ของมูลค่าสินทรัพย์รวมของบริษัทฯ ตามงบการเงินรวมงวดล่าสุด สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2563 ซึ่งสอบทานโดยผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ และบริษัทฯ ไม่มี รายการจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์รายการอื่นของบริษัทฯ ในช่วง 6 เดือนย้อนหลังที่จะต้องนํามารวมเป็น ขนาดรายการนี้ ดังนั้น รายการจําหน่ายไปซึ่งหุ้น BAFS ครั้งนี้ถือเป็นรายการจําหน่ายไปที่มีขนาดต่ํากว่า 15% บริษัทฯ จึงไม่มีหน้าที่เปิดเผยสารสนเทศรายการจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย
นอกจากนี้ การจําหน่ายไปซึ่งหุ้น BAFS ให้กับ RATCH ในครั้งนี้ ไม่ใช่การทํารายการระหว่าง บุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ ดังนั้น จึงไม่เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันตามที่กําหนดในประกาศ คณะกรรมการกํากับตลาดทุนที่ ทจ. 21/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทํารายการที่เกี่ยวโยงกัน (รวมถึงประกาศ ที่แก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการ ปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546 (รวมถึงประกาศที่แก้ไขเพิ่มเติม)
ขณะที่ นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ RATCH เผยว่า ในการลงทุนครั้งนี้ เชื่อว่า BAFS จะมีศักยภาพในการเติบโตสูงหลังจากโควิด-19 คลี่คลาย เนื่องจากเป็นธุรกิจที่อ้างอิงกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เติบโตสูงในสถานการณ์ปกติ โดยบริษัทได้พิจารณาอย่างรอบคอบทุกมิติตามนโยบายบริษัทเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น และเป็นการขยายการลงทุนสู่ธุรกิจใหม่ด้านการจัดเก็บน้ำมันอากาศยานและธุรกิจขนส่งน้ำมันทางท่อ พร้อมจัดพอร์ตด้านการผลิตไฟฟ้า นวัตกรรมดิจิทัล และเทคโนโลยีร่วมกับ BAFS ในอนาคต