ย้ำประชาชนปฎิบัติมาตรการส่วนบุคคลอย่าเคร่งครัด

ย้ำประชาชนปฎิบัติมาตรการส่วนบุคคลอย่าเคร่งครัด

สธ.ย้ำผู้ไปในสถานที่เสี่ยง มีโอกาสติดเชื้อโควิด-19 งดไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ หวั่นนำเชื้อไปสู่ผู้สูงอายุในบ้าน พร้อมขอความร่วมมือปฎิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าการระบาดในประเทศไทย ในวันที่ 24 ..2564 มีผู้ติดเชื้อใน 7 จังหวัด ในกรุงเทพฯปริมณฑล ระยอง และภาคกลางบางจังหวัด ซึ่งอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการสาธารณสุขจังหวัด ต้องลดงดกิจกรรมเสี่ยงต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อควบคุมโรค ขณะเดียวกันในกรณีของผู้เสียชีวิตในวันนี้ (24 ..2564 ) เป็นผู้สูงอายุ ซึ่งไม่ได้ไปในสถานที่เสี่ยงแต่มีญาติติดเชื้อไปเยี่ยม ดังนั้น อยากให้ผู้ที่ไปในพื้นที่เสี่ยง แม้จะไม่มีอาการก็ขอให้หลีกเลี่ยงการไปเยี่ยมญาติผู้ป่วย หรือถ้าไปเยี่ยมแต่ไม่ได้มีอาการต้องสวมใส่หน้ากากตลอดเวลาเพื่อป้องกันโรคโควิด-19

ส่วนกรณีของดีเจมะตูมจากการสอบสวนโรค ได้ไปงานวันเกิดและไปงานปาร์ตี้  ทำให้มีจำนวนผู้ที่เสี่ยงมีจำนวนมากขึ้น เช่นเดียวกับ ผู้ประกาศข่าวที่ติดเชื้อ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกันเนื่องจากไปงานเลี้ยงวันเกิดที่เดียวกับดีเจมะตูม ทำให้ขณะนี้มีผู้เสี่ยงจำนวน 19 ราย ขอให้มีการระมัดระวังและงดเว้นการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ในพื้นที่แออัด หรือมีการดื่มแอลกอฮอล์

อย่างไรก็ตาม จาก 2-3 เหตุการณ์ที่ผ่านมา  ผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุด คือ ครอบครัวและสถานที่ทำงานที่มีความเสี่ยงติดโรค ดังนั้น อยากให้ทุกคนปฎิบัติตามมาตรการของรัฐ และหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงต่างๆ และขอให้ทุกคนปฎิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคล ทำให้การแพร่ระบาดของโรคได้ดียิ่งขึ้น

"
การระบาดและการค้นหาเชิงรุกของโควิด-19 ในขณะนี้อยู่บริเวณสมุทรสาครเป็นหลัก ประมาณ 70-90% ส่วนกรุงเทพฯ และปริมาณ ยังมีการระบาดและค้นพบผู้ป่วยอยู่ ขณะที่จังหวัดอื่นๆ สามารถผ่อนมาตรการอื่นๆได้ แต่มาตรการสาธารณสุขต้องเข้มงวดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัญหาสมุทรสาครเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องควบคุมโรค ซึ่งขณะนี้ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการได้ร่วมระดมกำลังร่วมมือกันตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่สมุทรสาคร โดยในสัปดาห์หน้าจะเป็นสถานการณ์ปูพรมในการจัดการโรคโควิด-19 ในพื้นที่สมุทรสาคร" นพ.โอภาสกล่าว