ตรวจผลงาน“ครึ่งเทอมรัฐบาล” นโยบาย “4 พรรคหลัก” ทำได้ไม่ถึงครึ่ง

ตรวจผลงาน“ครึ่งเทอมรัฐบาล” นโยบาย “4 พรรคหลัก” ทำได้ไม่ถึงครึ่ง

ตรวจการบ้านรัฐบาลก่อนศึกซักฟอก เน้นหว่านประชานิยม พปชร.ทิ้งนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ ปชป.ทำได้ไม่ไว ทำได้จริงบางส่วน

ใกล้ครบ 2 ปีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง 24 มี.ค. 2562 เป็นรัฐบาลภายหลังการยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำให้อำนาจเต็ม ที่ “พล.อ.ประยุทธ์” เคยมี บางส่วนต้องผ่องถ่ายมาอยู่ในมือของ “นักการเมืองมืออาชีพ”

 

และในวันที่ 25 ม.ค.นี้ “พรรคร่วมฝ่ายค้าน” จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลให้กับ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดสภาเพื่ออภิปรายญัตติดังกล่าว โดยคาดว่าน่าจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 16-20 ก.พ.

 

“กรุงเทพธุรกิจ” จึงนำนโยบายของ “พรรคร่วมรัฐบาล” ที่ใช้หาเสียงในการเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 เพื่อตรวจการบ้านว่า รัฐบาลได้ทำงานตอบโจทย์ประชาชนตามที่หาเสียงไว้หรือไม่

 

พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะที่เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จึงเป็นที่คาดหวังของประชาชนที่จะทำตามนโยบายหาเสียงที่ได้ให้สัญญาให้ไว้ แต่โครงการของ พปชร.ส่วนใหญ่กลับสานต่อจากโครงการในยุครัฐบาล คสช. อาทิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทางพรรคก็ได้นำมาใช้หาเสียง ในหลายพื้นที่ เนื่องจากเป็นการลดค่าครองชีพในครัวเรือนให้กับประชาชนในแต่ละเดือน พร้อมกับต่อยอดเพิ่มสิทธิต่างๆ จึงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนผู้มีรายได้น้อย

 

โครงการมารดาประชารัฐ ที่มีเงินช่วยเหลือมารดาระหว่างตั้งครรถ์ เงินค่าคลอดบุตร และค่าเลี้ยงดูบุตร เพื่อเตรียมคนไทยให้พร้อมสู่ศตวรรษที่ 21 นโยบายดูแลเด็กแรกเกิด รายละ 600 บาท ผู้พิการ ผู้สูงอายุ

 

โครงการบ้านล้านหลัง ที่รัฐต้องการให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง โดยให้ธนาคารของรัฐปล่อยสินเชื่อ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ

 

@พปชร.ทิ้งนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ400

 

ในทางตรงกันข้ามนโยบายหลายอย่างเพื่อดึงดูดคะแนนเสียง แต่มีหลายนโยบายที่ยังไม่สามารถนำไปสู่การปฏิบัติจริง อาทิ การเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน จากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 400-425 บาทต่อวัน เงินเดือนเด็กจบอาชีวะศึกษา 18,000 บาทต่อเดือน และเด็กจบปริญญาตรี เงินเดือน 20,000 บาทต่อเดือน

 

นโยบายลดภาษีคืนรายได้ มาตรการลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% ลดลงทุกขั้นบันได คนที่มีรายได้ต่ำกว่า 200,000 บาท/ปี ไม่ต้องเสียภาษี กลุ่มเด็กจบใหม่ยกเว้นภาษี 5 ปี กลุ่มผู้ค้าขายออนไลน์ ยกเว้นภาษีค้าขายออนไลน์ 2 ปี

 

@บิ๊กโปรเจคกทม.ไม่ถูกสานฝัน

 

ขณะเดียวกัน นโยบายที่หาเสียงไว้กับ “ชาว กทม.” ยังพบว่าไม่สามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง อาทิ นโยบาย การจราจร AI แก้ปัญหารถติด ทุก 4 แยก ต้องเชื่อมกันเป็นระบบด้วยระบบสัญญาญไฟจราจรอัตโนมัติ นโยบาย Bangkok การ์ดชีวิตง่ายในบัตรเดียว สามารถเดินทางได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรถ รถไฟฟ้า เรือ ใช้สัญจรได้ในบัตรเดียว ทุกการขนส่งใน กทม.

 

นโยบายรถเมล์ Midnight เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกในการกลับบ้านตอนดึกโดยรวมถึงรถไฟฟ้าก็ต้องขยายเวลาไม่ใช่ปิดแค่เที่ยงคืน การใช้เว็บไซต์ Bangkok Ok Shop พื้นที่ค้าขายออนไลน์เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ระดับโลกโดยรับสินค้าจากคนกรุงเทพฯ เพื่อโปรโมทไปทั่วโลก ลดต้นทุนการตลาดและประชาสัมพันธ์ของผู้ผลิต พร้อมทั้งส่งเสริมโปรโมชั่นจากสินค้าต่างๆ ในเว็บไซต์

 

นโยบายการเปิดถนนคนเดินประชารัฐ 50 เขต ทั่วกรุงเทพฯ ให้เป็นสถานที่ค้าขายและพักผ่อนหย่อนใจ ทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว จัดระเบียบผู้ค้าขายให้เหมาะสมปลอดภัย นโยการเพิ่ม 50 สวน 50 เขต ให้ปอดสะอาด ลาขาดฝุ่น เพิ่มเติมสวนในกรุงเทพฯ เขตละ 1 สวน คนกรุงเทพฯ จะได้มีพื้นที่สีเขียวมากขึ้น ช่วยลดฝุ่น

 

รวมถึงนโยบายรถเก่า แลกรถใหม่ ที่เป็นรถไฟฟ้า รับส่วนลดทันที 1 แสนบาท เพื่อสนับสนุนให้คนไทยเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ลดมลพิษที่เกิดจากรถยนต์

 

@ปชป.ทำได้ไม่ไว ทำได้จริงบางส่วน

 

ข้ามฟากมาที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในช่วงที่นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรค มีนโยบายหาเสียง อาทิ เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุเป็น 1,000 บาทต่อเดือน เบี้ยสวัสดิการผู้ยากไร้ 800 บาทต่อเดือน โครงการโฉนดที่ดินสีฟ้า โฉนดชุมชน ธนาคารที่ดิน ประกันรายได้เกษตรกร เรียนฟรีถึง ปวส.จบแล้วมีงานทำ เกิดปั๊บรับแสน

 

โดยพรรคปชป.เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ดูแล 7 กระทรวงโดยเน้นการทำงานตามนโยบายหาเสียงภายใต้แนวคิด “ทำได้ไว ทำได้จริง” ซึ่งยุค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ เป็นหัวหน้าพรรค ได้เร่งเดินหน้านโยบายหลักซึ่งเน้นไปที่นโยบายด้านเศรษฐกิจ ที่ออกมาในโครงการประกันรายได้พืชเศรษฐกิจหลักของประเทศ 5 ชนิด ประกอบด้วย ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพด

 

ปชป.ได้ดำเนินการโครงการไปถึงเกษตรกรที่เด่นชัดมาตลอดการร่วมรัฐบาล โดยในช่วงปลายปี 2563 ได้ช่วยเหลือเกษตรกรประมาณ 7.29 ล้านราย แบ่งเป็นชาวนา 4.31 ล้านราย ปาล์มน้ำมัน 3 แสนราย ยางพารา 1.7 1 ล้านราย มันสำปะหลัง 5.2 แสนราย และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 4.5 แสนราย

 

นอกจากนี้ โครงการเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุที่ ปชป.หาเสียงไว้ที่ 1,000 บาทต่อเดือน ที่ผ่านมากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ได้กำหนดจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันไดตามช่วงอายุ ประกอบด้วย อายุ 60-69 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพเดือนละ 600 บาท อายุ 70-79 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพเดือนละ 700 บาท อายุ 80-89 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพเดือนละ 800 บาท และอายุ 90 ปี ขึ้นไป ได้รับเบี้ยยังชีพเดือนละ 1,000 บาท

 

จากนโยบายที่ ปชป.ประกาศนโยบายหาเสียง จะต้องให้เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ คนละ 1,000 บาท สำหรับทุกคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถผลักดันให้มีการจ่ายเงินในเรื่องนี้ได้

@ดันแก้รธน.-ช่วยกลุ่มยากไร้ไม่คืบ

 

สำหรับนโยบายที่ ปชป.เคยหาเสียงเอาไว้ แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ ประกอบด้วย นโยบายเกิดปั๊บรับแสน แต่มีการผลักดันเงิน “อุดหนุนบุตร” ให้กับผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ประจำเดือน ม.ค.2564 จำนวน 600 บาท นโยบายการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี เดือนละ 600 บาท ต่อ 1 คน

 

นโยบายเบี้ยสวัสดิการผู้ยากไร้ 800 บาทต่อเดือน ยังไม่มีความชัดเจน แต่กระทรวง พม.เคยผลักดันการเยียวยากลุ่มเปราะบาง ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จำนวน 13 ล้านคน ใน 3 กลุ่ม 1.เด็กแรกเกิดถึงอายุ 6 ปี จากครัวเรือนที่มีความยากจน ประมาณ 1.45 ล้านคน 2.ผู้สูงอายุ ประมาณ 9.66 ล้านคม และ 3.ผู้พิการ 2 ล้านคน โดยจ่ายเป็นเงินเยียวยารายละ 1,000 บาทต่อเดือน ตั้งแต่เดือน พ.ค.-ก.ค.2563

 

ส่วนนโยบายโครงการโฉนดที่ดินสีฟ้า โฉนดชุมชน ธนาคารที่ดิน เรียนฟรีถึง ปวส.จบแล้วมีงานทำ ยังไม่มีความคืบหน้าชัดเจน ขณะที่หนึ่งในเงื่อนไขร่วมรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐในเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ขณะนี้กำลังเดินหน้าในกระบวนการรัฐสภา

 

@ภูมิใจไทยดันกัญชาเสรีตามสัญญา

 

พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข ชูนโยบายกัญชาเสรี”แก้ พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ นำกัญชามาใช้ในทางการแพทย์ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2563 อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ตามที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข เสนอก่อนส่งให้กฤษฎีกาพิจารณา ก่อนนำเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่สภาเพื่อให้ความเห็นชอบ

 

@จ่ายค่าตอบแทนอสม.ไม่ได้ตามเป้า

 

ถัดมาคือ “นโยบายยกระดับ อสม.” เป็นหมอประจำบ้าน ค่าตอบแทน 2,500 – 10,000 บาท ต่อเดือน พบว่า ปัจจุบันที่ประชุมคณะรัฐมนตรีล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2563 ที่ผ่านมา เห็นชอบจ่ายเงินค่าตอบแทนฯ อสม. จากเดิมที่สิ้นสุดเดือน ธ.ค.2563 ไปเป็นเดือน มี.ค.2564 เดือนละ 500 บาท วงเงิน 1.57 พันล้าน

 

“นโยบายแก้หนี้ กยศ.” โดยปลดภาระผู้ค้ำประกัน ไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีค่าปรับ ผ่อนคืนเงินต้น 10 ปี และปลอดหนี้ 5 ปี ดูเหมือนว่าจะยังคงอยู่ในขั้นตอนการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

 

@ชาติไทยพัฒนาเฉยปลดหนี้เกษตรกร

 

สำหรับพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าชพท. ได้รับหมายให้ดูแลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และมีนายประภัตร โพธสุธน ดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ แต่หลายนโยบายไม่สามารถนำไปขับเคลื่อนได้

 

แต่นโยบายที่อยู่ในความรับผิดชอบ อาทิ แนวคิดปลดหนี้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมจากรัฐ เพิ่มรายได้เกษตรกร กลุ่มมนุษย์เงินเดือน เพิ่มเงินลงทุนให้ท้องถิ่นๆ ละ 10 ล้านบาท ที่ยังไม่ขับเคลื่อนในรอบการทำงานที่ผ่านมา

@ กลาโหมโชว์คืบหน้าปฏิรูปกองทัพ

 

ทางด้านกระทรวงกลาโหม ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ควบ รมว.กลาโหมเอง โดยในส่วนของกองทัพถูกโจมตีเรื่องงบประมาณการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์มาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งกองทัพเรือ(ทร.)ก็ผิดหวังเรื่องจัดซื้อเรือดำน้ำไปอีกรอบ

 

 ทว่าก็ยังพอมีผลงานที่กองทัพบก (ทบ.)จะพอแก้หน้า โดยวันที่ 8 ก.พ.นี้ จะครบ 1 ปีเหตุกราดยิงโคราช ทบ.กำลังรวบรวมข้อมูลเตรียมแถลงความคืบหน้าการ ปฏิรูปกองทัพในหลายประการซึ่งมีทั้งดำเนินการไปแล้ว บางส่วนอยู่ระหว่างดำเนินการ และบางส่วนต้องหยุดชะงักกลางคัน เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้

 

ในส่วนสวัสดิการของ ทบ.แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ สวัสดิการภายในหน่วย และสวัสดิการเชิงธุรกิจ (ประชาชนใช้บริการ 50%) เช่น สถานีบริการน้ำมัน ร้านค้า ตลาดนัด กิจการสโมสร สนามมวย สนามกอล์ฟ สนามม้า โรงแรม สถานพักฟื้นพักผ่อน ทบ.

 

@โอนโครงการสวัสดิการบริหารเชิงธุรกิจ

 

ภายหลังทบ.ได้ทำโครงการสวัสดิการในเชิงธุรกิจ ทำ ‘เอ็มโอยู’ ร่วมกับ กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เพื่อให้การใช้ที่ราชพัสดุของ ทบ.ประกอบด้วย ที่ดินเกือบล้านไร่ อาคาร และสิ่งปลูกสร้างในการจัดสวัสดิการภายในทบ.เป็นไปตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

 

และการจัดสวัสดิการภายในทบ.ดำเนินการภายใต้กรอบระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันสถานพักฟื้นและพักผ่อน ทบ.สวนสนประดิพัทธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ถูกโอนให้กับเอกชนไปบริหารแล้ว แต่หลังจากเกิดแพร่ระบาด ‘โควิด-19’ ส่งผลให้การดำเนินการในพื้นที่อื่นต้องยุติลงไปชั่วคราว เช่น สถานพักฟื้นและพักผ่อน มณฑลทหารบกที่ 37 จ.เชียงราย ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของหน่วย

 

ส่วนสนามมวยลุมพินี(รามอินทรา)ซึ่งเป็นต้นตอแพร่ระบาด ‘โควิด-19’ ก็ยังไม่ถูกแปรสภาพ แต่ ‘พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้’ ผบ.ทบ.ในฐานะประธานบอร์ด แต่งตั้ง พล.ท.สุชาติ แดงประไพ เป็นนายสนามมวยเวทีลุมพินีคนใหม่ หลังโอนหน่วยงานจากเดิมที่ขึ้นตรงกรมสวัสดิการทหารบก ไปขึ้นตรงต่อ ทบ.และยังปิดให้บริการจนถึงปัจจุบัน

 

ในขณะที่สนามกอล์ฟกว่า 100 แห่ง และตลาดสด สโมสร ปั้มน้ำมัน ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นกิจการโดยรวมที่ต้องถูกแปรสภาพเป็นสวัสดิการเชิงธุรกิจ เช่น สนามกอล์ฟ รามอินทรา และ กิจการเฉพาะหน่วยที่ตั้งขึ้นเอง เช่น สนามกอล์ฟบางส่วน กิจการสวัสดิการพีเอ็กซ์ แต่จะหักรายได้ส่งเข้ากองทุนสวัสดิการทบ. เนื่องจากกู้ยืมเงินไปดำเนินการ

 

@ตั้งกก.บริหารบ้านพักหลวงทหาร

 

สำหรับ ‘บ้านพักหลวงทหาร’ ได้จัดตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการบ้านพัก ทบ.ในภาพรวม เข้าไปควบคุมดูแลบ้านพักทหารทั้งหมด เพื่อให้กำลังพลที่มีสิทธิ์ได้เข้าพักอยู่อาศัย และให้บุคคลเกษียณอายุราชการแล้วออกจากบ้านพักหมด 100% แล้ว ยกเว้นผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ

 

ทบ.ได้สร้างแรงจูงใจให้สมัครใจเป็นทหาร ให้โควตา 80% สอบเข้าโรงเรียนนายสิบ และหากผลการเรียนอยู่ในกลุ่มต้น (20 คนแรก อาจขยายถึง 40 คน) สามารถเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร หวังลดยอดใบแดง หรือการเป็นทหารแบบไม่สมัครใจให้เหลือน้อยที่สุด หรือไม่มีเลยในอนาคต

 

ท่ามกลางสถานการณ์โควิดที่รัฐบาลจำเป็นต้องเยียวยา ฟื้นฟู ซึ่งถือเป็นภาระหนักทั้งในการบริหาร ภาระงบประมาณ และยังเผชิญแรงเสียดทานทางการเมืองที่รัฐบาลกำลังจะถูกฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบสอง ทว่าทั้งหมดทั้งมวลก็พอจะเห็นภาพรวมว่า ผ่านมาถึงครึ่งเทอมรัฐบาลแล้วแต่นโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลกลับยังทำได้ไม่ถึงครึ่งที่ได้สัญญากับประชาชนไว้ในระหว่างหาเสียง

 

ฉะนั้นอีกครึ่งทางที่เหลือ จึงเป็นระยะเร่งมือของรัฐบาล เพื่อโชว์ผลงานก่อนที่จะกลับสู่สนามเลือกตั้งรอบใหม่ที่ประชาชนจะตัดสินใจให้โอกาส ได้ไปต่ออีกหรือไม่