IRPC ร่วมทุน ม.นวมินทร์ จัดตั้งห้องแล็บตรวจสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์
IRPC ลงนาม ม.นวมินทร์ ร่วมทุนจัดตั้งห้องปฏิบัติการกลาง ตรวจสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ หวังยกระดับผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐาน มอก. เพิ่มมูลค่าในเชิงพาณิชย์ คาดว่า ก่อสร้างเสร็จในไตรมาส 2 ปี 2564 ช่วยประเทศลดการนำเข้า
เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ได้ลงนามสัญญาร่วมทุน กับ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เพื่อจัดตั้งห้องปฏิบัติการกลาง เพื่อตรวจสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC กล่าวว่า ความร่วมมือในการจัดตั้งห้องปฏิบัติการกลาง เพื่อตรวจสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นการนำความรู้ความเชี่ยวชาญจากภาคเอกชนในด้านเทคโนโลยีนวัตกรรม การพัฒนาธุรกิจและการตลาด ผนวกกับศักยภาพการวิจัยทางด้านการแพทย์ โดยมุ่งหวังให้บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนได้ใช้ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและผ่านการรับรองตามมาตรฐานสากล ช่วยยกระดับอุปกรณ์ทางการแพทย์ของประเทศไทยที่เป็น 1 ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (New S-Curve) เพื่อขับเคลื่อนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาของกลุ่ม ปตท. ต่อไป
โครงการนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่ผลักดันให้ IRPC เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาทางการแพทย์อย่างเต็มตัว ขณะเดียวกัน ก็เป็นการตอบแทนสังคมในการร่วมสร้างความมั่นคง และเข้มแข็งทางด้านสาธารณสุขให้กับประเทศไทย ต่อยอดความร่วมมือในกลุ่ม ปตท. ระหว่าง IRPC และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในการศึกษาการลงทุนผลิตผืนผ้า Melt Blown ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์สาธารณสุข อาทิ หน้ากากอนามัย หน้ากาก N95
“กลุ่มธุรกิจสุขภาพ สุขอนามัยและการแพทย์ เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจใหม่ที่ IRPC ให้ความสำคัญและเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปลายน้ำให้เข้าใกล้ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นได้ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ ในกลุ่ม Smart material ของบริษัทฯ และยังเป็นการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยีที่ทันสมัย และเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งมาสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการแพทย์ เพื่อตอบสนองวิถีชีวิตใหม่และสอดรับกับเศรษฐกิจเชิงสุขภาพ (Wellness Economy) ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็ว”
ศาสตราจารย์ ดร. สุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผลกระทบอย่างมากกับวิถีชีวิตของผู้คน ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการทางการแพทย์และการดูแลรักษาสุขภาพมีอัตราการเติบโตสูงขึ้น โดยเฉพาะความต้องการอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment) ที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนความร่วมมือในการสร้างห้องปฏิบัติการกลางสำหรับให้บริการตรวจสอบหน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 และชุดกาวน์ ระหว่างมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช และ IRPC จะเป็นส่วนสนับสนุนการพัฒนาด้านสาธารณสุขของประเทศช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยสามารถผลิตอุปกรณ์การแพทย์ที่ได้มาตรฐานระดับสากล ลดการพึ่งพาการนำเข้า สามารถควบคุมคุณภาพ ปริมาณการผลิต และความปลอดภัยของประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ได้ในภาวะวิกฤต
รองศาสตราจารย์นายแพทย์อนันต์ มโนมัยพิบูลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวว่า ประเทศไทยมีนโยบายส่งเสริมการเป็นศูนย์กลางการให้บริการทางการแพทย์ของประเทศตั้งแต่ปี 2547 ส่งผลให้จำนวนผู้ใช้บริการในโรงพยาบาลเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 16.5% เป็นผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์เพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งเกิดสถานการณ์ขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลในภาวะวิกฤตที่ผ่านมา และยังจำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ
มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช จึงมุ่งเน้นการใช้ความรู้ทางด้านการแพทย์และการบริการวิชาการแก่สังคม เพื่อสร้างความเข้มแข็งต่อชุมชน และตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างความมั่นคงด้านสาธารณสุข และอุตสาหกรรมการแพทย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New S-Curve) ของประเทศไทย
สำหรับความร่วมมือในการจัดตั้งห้องปฏิบัติการกลางเพื่อตรวจสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์นี้ จะนำเข้าเครื่องมือและอุปกรณ์ทดสอบที่มีประสิทธิภาพ ให้ผลการทดสอบที่ถูกต้องและแม่นยำตามมาตรฐาน มอก. 2424 – 2562 สำหรับหน้ากากอนามัย และ มอก. 2480 – 2562 สำหรับหน้ากาก N95 ซึ่งเทียบเท่ามาตรฐาน ASTM และ EN ในต่างประเทศ โดยนำองค์ความรู้ ประสบการณ์ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และด้านการแพทย์ของทั้งภาคเอกชนและมหาวิทยาลัยมาใช้ในการบริหารจัดการให้ดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพด้วยธรรมาภิบาล เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับตามมาตรฐานสากล อีกทั้งจะเป็นการวางรากฐานการพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจรที่ได้มาตรฐานในประเทศไทยต่อไป
โดยห้องปฏิบัติการกลางเพื่อตรวจสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์นี้ จะตั้งอยู่ที่จังหวัดกรุงเทพมหานครในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 นี้