ต่างชาติบินเข้าไทย 3 เดือนสุดท้ายปี 63 แค่หมื่นคน
กระทรวงการท่องเที่ยวฯเปิดตัวเลขต่างชาติบินเข้าไทย 3 เดือนสุดท้ายปี 63 แค่หมื่นคน ส่งผลให้ตลอดปีที่ผ่านมามียอดต่างชาติเที่ยวไทยปิดที่ตัวเลข 6.7 ล้านคน ลดลง 83%
รายงานข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงรายงานสรุปสถานการณ์ท่องเที่ยวปี 2563 ว่า ตลอดปีที่ผ่านมาประเทศไทยรวม 6,702,396 คน ลดลง 83% เมื่อเทียบกับปี 2562 คิดเป็นรายได้ 332,013 ล้านบาท ลดลง 82% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นยอดนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกก่อนจะหายไปช่วงเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่ช่วงปลายปีที่แล้วพบว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านวีซ่าประเภทพิเศษ (Special Tourist Visa : STV) ผ่านสมาชิกบัตรไทยแลนด์ อีลิท และวีซ่านักธุรกิจ เพียง 3 เดือนสุดท้าย ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค.2563 รวมแค่ 10,822 คนเท่านั้น
สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยในช่วง 3 เดือนสุดท้ายปีที่แล้ว จากที่ไม่มีเข้ามานานถึง 6 เดือนตั้งแต่เดือน เม.ย.2563 หลังจากรัฐบาลได้ผ่อนปรนให้มีการเดินทางเข้ามาได้ตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุขและศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เห็นชอบ จะสามารถเดินทางผ่านวีซ่าประเภทต่างๆ เท่านั้น โดยเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาเป็นเดือนแรกที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 1,201 คน เดือน พ.ย. 3,065 คน และเดือน ธ.ค. 6,556 คน ส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใน 3 เดือนหลังนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมิน
ทั้งนี้จากข้อมูลสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทยตลอดปี 2563 พบว่าเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มเอเชียตะวันออกมากที่สุด 3,739,408 คน โดยส่วนใหญ่เป็นการเดินทางของชาวอาเซียน 1,652,593 คน ตามด้วยชาวจีน 1,249,910 คน และชาวญี่ปุ่น 320,331 คน ส่วนที่เหลือเป็นนักท่องเที่ยวยุโรป 2,078,979 คน อเมริกา 318,426 คน เอเชียใต้ 321,753 คน ตะวันออกกลาง 79,674 คน และแอฟริกา 24,265 คน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯพิจารณาแผนงานปี 2564 ให้ชัดเจน โดยเฉพาะแนวทางการส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวของชาวไทยและต่างชาติ
“เชื่อว่าการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยคงทำได้ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แต่ก็ต้องดูสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศก่อนว่าจะมีแนวโน้มอย่างไร โดยทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด”