เปิดผลAIตรวจจับการใส่หน้ากากคนกรุงช่วงโควิด-19
ศบค.รายงานติดโควิด-19รายใหม่ 829 ราย ขณะที่ระบบเอไอตรวจจับการใส่หน้ากากคนกทม. พบยังไม่ใส่-ใส่ไม่ถูกอีกเกือบ 3 % คนดอนเมืองใส่น้อยที่สุด
เมื่อวันที 31 มกราคมที่ ทำเนียบรัฐบาล พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การโควิด-19(ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 829 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 822 ราย แบ่งเป็นระบบเฝ้าระวังและบริการ 91 ราย พบใน สมุทรสาคร 79 ราย เป็นชาวเมียนมา 44 ราย คนไทย 34 รทย กัมพูชา 1 ราย กรุงเทพมหานคร(กทม.) 6 ราย และนครปฐม นนทบุรี ขอนแก่น ราชบุรี ลพบุรี สมุทรสงคราม จังหวัดละ 1 ราย ส่วนการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 731 ราย พบใน สมุทรสาคร 722 ราย ชาวเมียนมา 680 ราย คนไทย 42 ราย มหาสารคาม 4 ราย และ กทม. ชลบุรี ปทุมธานี ระยอง สมุทรสงคราม จังหวัดละ 1 ราย และกลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค(Quarantine) 7 ราย ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยรวมสะสม 18,782 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 16,323 ราย จากการคัดกรองเชิงรุก 9,284 ราย รักษาหายแล้ว 11,615 ราย เหลือรักษาอยู่ 7,090 ราย และผู้เสียชีวิตสะสมที่ 77 ราย โดยผู้ป่วยในการระบาดรอบใหม่สะสม 14,545 ราย และเสียชีวิตสะสม 17 ราย
"กราฟแสดงจำนวนผู้ป่วยจากระบบบริการฯ ค่อนข้างคงที่เป็นแนวราบ ขณะที่ผู้ป่วยจากการคัดกรองเชิงรุก ยังคงสูงต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่พบใน จ.สมุทรสาคร ที่ดำเนินการตรวจหาผู้ติดเชื้อเชิงรุดในชุมชน โดยจะพยายามแบ่งและปรับมาตรการแต่ละพื้นที่ในจังหวัด ให้เหมาะกับการระบาดที่ต่างกัน ดังนั้นหลังจากตรวจครบแล้ว จะเร่งปรับมาตรการในแต่ละพื้นที่" พญ.พรรณประภา กล่าว
0 ดอนเมืองใส่หน้ากากต่ำสุด
พญ.พรรณประภา กล่าวอีกว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.)ได้นำระบบปัญญาประดิษฐ์ AiMASK ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาสนับสนุนการดูแลสุขภาพประชาชนร่วมกันในช่วง covid 19 โดย AI Mask จะคอยรายงานสถิติการสวมใส่หน้ากากอนามัยของคนไทยโดยการวิเคราะห์จากระบบปัญญาประดิษฐ์ โดยตรวจจับจากกล้องวงจรปิดที่มีอยู่ หากพบว่าไม่ใส่หน้ากากจะเป็นสีแดง ใส่ ใส่หน้ากากไม่ถูกต้องเช่นใส่หน้ากากแต่ปิดไม่ถึงจมูกใส่หน้า กากพาดไว้ใต้คาง ใส่หน้ากากคล้องไว้แต่
เปิดปากและจมูก จะเป็นสีเหลือง และใส่หน้ากากถูกต้อง ปิดจมูก ปิดปาก ครอบคลุมกระชับติดใบหน้าจะเป็นสีเหลือง
จากการดำเนินการใน 15 เขต พื้นที่กทม. คือ ดอนเมือง บางกะปิ ภาษีเจริญ สัมพันธวงศ์ บางกอกใหญ่ ราชเทวี พระนคร ราษฎร์บูรณะ บางบอน ปทุมวัน คลองเตย บางแค บางนา ทุ่งครุและพญาไท ระหว่างวันที่ 21-27 ม.ค.2564 พบว่า ใส่หน้ากากถูกต้อง 97.53% ใส่ไม่ถูกต้อง 1.42% และไม่ใส่หน้ากาก 1.05% ทั้งนี้เขตที่มีการใส่หน้ากากน้อยกว่า 90% มีเพียงเขตเดียวคือ เขตดอนเมือง และเขตที่ใส่หน้ากากระหว่าง 90-95% คือเขตบางกะปิ ส่วนที่เหลือใส่มากกว่า 95% นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า ในช่วงเช้ามีการใส่หน้ากากไม่ถูกต้อง และไม่ใส่หน้ากากอยู่ที่ 2.59% ในช่วงเย็นจะเพิ่มเป็น 3.02%และในวันเสาร์-อาทิตย์แนวโน้มคนใส่หน้ากากไม่ถูกต้องเพิ่มขึ้น
0 จัดการเรียนการสอนเหมาะตามพื้นที่
พญ.พรรณประภา กล่าวด้วยว่า จากการสำรวจของซูเปอร์โพลล์ เรื่อง เรียนแบบไหน ห่างไกลโควิด-19 จำนวน 1,079 คน ระหว่างวันที่ 28-30ม.ค.2564 พบว่า พื้นที่ กทม. สมุทรสาครและภาพรวมเห็นว่าเรียนแบบเดิมเสี่ยงติดมาก-มากสุด และเห็นว่าเสี่ยงลดลงหากมีการเรียนออนไลน์หรือเรียนแบบผสมผสาย จึงมีการเสนอทางเลือก 3 รูปแบบในการจัดการเรียนการสอน คือ 1.เด็กเล็กและเด็กโตใช้มาตรการต่างกัน และยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคในเด็กเล็กสูงขึ้นกว่าเด็กโต 2.พื้นที่กทม.ยังต้องเคร่งครัด โดยมีมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19สูงสุด อาจจะให้มีการเรียนออนไลน์ ในสถานที่เหมาะสมที่อาจจะปลอดภัยกว่าสถานศึกษา และ 3.เรียนแบบผสมผสาน อาจจะเรียนออนไลน์ กับเรียนที่สถานศึกษาสลับกันไป ซึ่งเห็นว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในช่วงการผ่อนปรน อย่างไรก็ตาม แต่ละสถานศึกษาจะต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อรูปแบบการเรียนให้เหมาะสมกัยแต่ละพื้นที่ด้วย