ค่าย “กระทิงแดง” เปิดศึกชิงแชร์ เครื่องดื่ม ส่ง “ไฮ-แมนซั่ม” บุกตลาดวิตามินซี-วิตามิน วอเตอร์

ยังคงพาเหรดกันเข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่องสำหรับสงครามเครื่องดื่ม โดยเฉพาะเซ็กเมนต์เพื่อสุขภาพหรือ ฟังก์ชันนอลดริ้งค์ หมวด “วิตามินซี-น้ำดื่มผสมวิตามิน” โดยต้นปีเป็นการประเดิมเกมรุกของ “ยักษ์ใหญ่” อย่าง “กลุ่มธุรกิจทีซีพี” หรือค่ายกระทิงแดงนั่นเอง ที่ส่งสินค้า 2 หมวดหมู่ลงสมรภูมิในเวลาไลเลี่ยกัน

“ไฮ” เป็นแบรนด์น้องใหม่ในอ้อมอกบริษัท ที่ขอเข้าไปชิงส่วนแบ่งตลาด “เครื่องดื่มวิตามินซี” ท้าชนผู้เล่นบิ๊กๆทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ “ซีวิต”(C-Vitt) ของค่าย “โอสถสภา” เป็นเจ้าตลาดที่ส่วนแบ่งใกล้ๆ 40% ทิ้งห่างคู่แข่งเบอร์รองทั้ง 2 3 4 แบบไม่เห็นฝุ่น เนื่อจากแต่ละรายมีส่วนแบ่งตลาดราว 3-4-5% เท่านั้น ขณะที่ผู้เล่นรายใหญ่อื่นๆ เช่น วู้ดดี้ซีล็อค สินค้าที่เกิดจากความร่วมมือของ “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา กับเจ้าพ่อ “เสถียร เศรษฐสิททธิ์” แห่งคาราบาว กรุ๊ป อิชิตัน วิตซีซี ของ “เสี่ยตัน ภาสกรนที” และมีแบรนด์อื่นๆอีก 

ไฮ วิตามินซี ลงสนามทีหลัง จุดเด่นอาจไม่แตกต่างมาก เพราะอยู่ในตลาดเดียวกันหนีไม่พ้น Me Too Product เครื่องดื่มวิตามินซี 200% มี 3 รสชาติ เช่น รสส้ม มิกซ์เบอร์รี่ ฯ มีรางวัล Superior Taste Award การันตีคุณภาพ รสชาติ ได้รับสัญลักษณ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ ตอบเทรนด์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ อีกมุมคือสะท้อนการลดปริมาณน้ำตาล ลดภาระภาษีเป็นมิติทางธุรกิจ 

ส่วนการทำตลาด มีการใช้พรีเซ็นเตอร์สร้างการรับรู้แบรนด์ จัดกิจกรรม ณ พื้นที่ แม้จะไม่ได้รุกหนักมาก เพราะสถานการณ์โรคโควิดระบาด ทำให้เห็นการนำสินค้าไปมอบให้กับหน่วยงานต่างๆเพื่อต่อสู้กับไวรัส

ตลาดเครื่องดื่มมฟังก์ชั่นนอล มีมูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาท โดย “วิตามินซี” เป็นหมวดหมู่ทที่เติบโตสูงหลัก 100% ซึ่งปีก่อน ซีวิตถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้าง Miracle ให้โอสถสภาอย่างดีด้วย เพราะโรคระบาดทำให้ผู้บริโภคตระหนักในการเลือกสินค้าเพื่อป้องกันไวรัสมากขึ้น

ตัวเลขการโตสูง จึงเย้ายวนผู้เล่นในตลาดเครื่องดื่มโดดเข้ามาขอแบ่งขุมทรัพย์ย่อยๆที่กำลังใหญ่ขึ้นมากรายเรื่อยๆ 

อีกหมวดหมู่ที่มาแรงเป็นสงครามแดงเดือด(Red Ocean)ต้องยกให้ “น้ำดื่มผสมวิตามิน” ที่ “ยันฮี” เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกตลาดแบบเงียบๆ และกินแชร์เรียบไประยะหนึ่ง แต่ย้อนไปอีกนิด “ซันโทรี่ เป๊ปซี่ฯ” ถือเป็นอีกผู้เล่นสำคัญที่เปิดตลาดดังกล่าว ส่งแบรนด์ “กู๊ดมู้ด” มาสร้างการรับรู้ในตลาด แต่ไไม่ประสบความสำเร็จและขอ “พับ” สินค้าเข้ากรุก่อน 

ทว่า โรคระบาดปีก่อน ทำให้น้ำดื่มผสมวิตามินเข้าสู่ “ยุคทอง” เพราะ “คู่แข่ง” ดาหน้าเข้ามาทำตลาดให้พรึ่บ! ทั้งพี่เบิ้มของวงการ แม้กระทั่งหน้าใหม่ เช่น บลู จากค่ายเซ็ปเป้, อควาวิทซ์ บาย เจเล่ วิตามิน มิเนอรัล วอเตอร์ จาก บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด(มหาชน) , เพอร์ร่า วิตามิน วอเตอร์ จากค่ายบุญรอดบริวเวอรี่ หรือสิงห์, ดี อาร์ ดริ้งค์ จากบริษัท ดี.อาร์. ดริ้งค์ จำกัด ซึ่งมีก๊วนนักแสดงอย่าง แต้ว ณฐพร โปรโมทสินค้าอยู่เนืองๆ  เป็นต้น 

ล่าสุดเป็นคิวของ กลุ่มธุรกิจทีซีพี ที่ขอส่ง “แมนซั่ม วิตามิน วอเตอร์” ท้าชิงในตลาดอีกราย โดยชูจุดเด่นในเรื่องวิตามินต่างๆ และหนึ่งในจุดขายที่ผู้เล่นเคลมแข่งกันยกให้ “ที่มา” ของวิตามิน โดยแมนซั่ม วิตามิน วอเตอร์ ชู “เบต้า กลูแคน” นำเข้าจากสหรัฐ ท้าชนกับคู่แข่ง ที่นำเข้าวิตามินจากทั้ง อังกฤษ เยอรมัน ญี่ปุ่น เป็นต้น 

การเลือกใช้ “แมนซั่ม” แตกไลน์แบรนด์และสินค้า ไม่เพียงขยายพอร์ตโฟลิโอฟังก์ชั่นนอลดริ้งให้หลากหลายครอบคลุมตลาดเป้าหมาย แต่ในแง่ของ “แบรนด์” ถือว่าแข็งแกร่งมาก เพราะตลาดฟังก์ชันนอลดริ้งค์ ถือเป็นอีกตลาดที่ “ปราบเซียน” เพราะมีหลายรายถอยทัพออกไป เนื่องจากย้อนไปหลายปีที่ผ่านมาเทรนด์สุขภาพที่ว่ามาแรง แต่ผู้บริโภคไปร้านค้าจะหยิบเครื่องดื่ม สูตร “ผสมน้ำตาล” และเครื่องดื่มที่คุ้นชิน ยังถูกเลือกเป็นอันดับต้นๆ นั่นจึงทำให้ “น้ำอัดลม” เป็นสินค้าอันดับ 2 ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อ รองจาก “นมพร้อมดื่ม” ส่วนลำดับที่ 3 คือ น้ำดื่ม  

แมนซั่ม ยืนหยัดในตลาดฟังก์ชั่นนอลดริ้งค์ เพราะกลยุทธ์การตลาดที่แตกต่างออกไป เลือกจับกลุ่มเป้าหมาย “ผู้ชาย” ทำตลาดต่อเนื่อง จนขึ้นเป็น “ผู้นำ” ส่วนการต่อยอดสู่ วิตามิน วอเตอร์ ได้ออกสินค้าใหม่ 2 รสชาติ คือ กลิ่นใบเตยหอม(Pandan flavour) มีฝาเขียวเป็นเอกลักษณ์ และอร่อยสดชื่น(Deliciously Refreshing) ฝาแดง โดยทั้ง 2 รสชาติมีวิตามินที่แตกต่างกันด้วย ส่วนราคาขาย 17 บาท ขนาด 480 มิลลิลิตร 

ตลาดน้ำดื่มมีมูลค่าราว 3-4 หมื่นล้านบาท ปีที่ผ่านมาตลาด “หดตัว” ขณะที่หมวดน้ำดื่มผสมวิตามินเติบโตสูงมาก โดย 8 เดือนแรกน้ำดื่มผสมวิตามินมีมูลค่า 1,203 ล้านบาท เติบโต 75.1% และผู้ประกอบการคาดว่าปีนี้้ตลาดจะโตดันมูลค่าแตะ 3,500 ล้านบาท 

แต่เกมนี้ใครจะอยู่รอด! รอแค่อีกอึดใจ เพราะกุมภาพันธ์เป็นไฮซีซั่น ที่ผู้เล่นแต่ละรายตั้งกระบวนท่าการตลาดเตรียมรบ พกอาวุธมาครบมือ แต่สุดท้ายสู้กันที่ “ราคา” จึงต้องมีรายที่เลือดออกซิบๆ