'อัศวิน' แจงสั่งเลื่อนเก็บค่าโดยสาร รถไฟฟ้าสายสีเขียว 104 บาทตลอดสาย
"อัศวิน" แจงสั่งเลื่อนเก็บค่าโดยสาร รถไฟฟ้าสายสีเขียว 104 บาทตลอดสาย ยันขอเวลาหาทางออก กทม.-รัฐบาล
วันที่ 9 ก.พ. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหารคร(กทม.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คว่า สิ่งที่ กทม. พยายามผลักดันค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพดานสูงสุด” 65 บาท เดินทางระยะไกล/ตลอดสาย ราคาสูงสุดเพียง 65 บาท เดินทางระยะสั้น คิดตามจำนวนสถานี กทม. และรัฐบาล พยายามผลักดันให้มีการปรับค่าโดยสารตลอดสาย ที่เพดานสูงสุด 65 บาทมาโดยตลอด (61 สถานี 67.45 กิโลเมตร) กทม. คาดหวังว่าจะสามารถผลักดันให้ค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีเขียว มีราคาต่ำที่สุดให้ได้ โดย กทม.ได้หารือกับรัฐบาล เพื่อหาข้อยุติในการแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด
ทั้งปัญหาหนี้สินจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวกว่า 120,000 ล้านบาท เป็นหนี้จากงานโยธาก่อสร้าง ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้า ค่างานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล ค่าซ่อมบำรุง และอื่นๆ และการปรับราคาค่าโดยสารตั้งแต่สถานีคูคต – สถานีเคหะสมุทรปราการ ให้มีเพดานสูงสุดไม่เกิน 65 บาท ไม่มีการเรียกเก็บค่าแรกเข้าซ้ำซ้อนกันระหว่างโครงการส่วนหลักและส่วนต่อขยาย โดยจ่ายค่าแรกเข้าเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งระหว่างการหาทางออกเพื่อแก้ปัญหาร่วมกันนี้กับทางรัฐบาล กทม.ได้ออกประกาศชะลอการเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยายในวันที่ 16 ก.พ. 64 ออกไปก่อน
ที่ผ่านมา กทม.ได้ผลักดันค่าโดยสารให้ไม่เกิน 65 บาท มาโดยตลอด และพยายามปรับค่าโดยสารให้ถูกกว่า 65 บาท และงดเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้าที่ต้องเก็บซ้ำซ้อน เพื่อให้คน กทม.ได้ใช้ระบบรถขนส่งมวลชนสาธารณะที่ดีและถูกที่สุดทสำหรับอัตราค่าโดยสารแต่ละช่วงของการเดินทาง อธิบายแบบง่าย ๆ ดังนี้
หากเดินทางในเส้นทางหลัก 2 เส้นทาง คือ สายสุขุมวิท (หมอชิต-อ่อนนุช) และสายสีลม (สนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน) ค่าโดยสารอยู่ที่ 16-44 บาท (ค่าโดยสาร สถานีละ 4 บาท) แต่ถ้าเดินทางต่อไปยังเส้นทางส่วนต่อขยาย ค่าโดยสารจะอยู่ที่สถานีละ 3 บาท และไม่มีการเรียกเก็บค่าแรกเข้าเพิ่ม โดยมีเส้นทางจาก
- สถานีห้าแยกลาดพร้าว-คูคต
- สถานีบางจาก-เคหะสมุทรปราการ
- สถานีโพธิ์นิมิตร-บางหว้า
ถ้าเดินทางจากเส้นทางส่วนต่อขยาย เข้ามายังเส้นทางหลัก จะไม่มีการเรียกเก็บค่าแรกเข้าอีก เช่น
- เดินทางจาก คูคต เริ่มต้นที่ 15 บาท สถานีต่อไปเพิ่มสถานีละ 3 บาท และเมื่อเข้าเส้นทางหลักที่สะพายควาย ค่าโดยสาร สถานีละ 4 บาท ซึ่งถ้าเดินทางจนถึงสถานีอนุสาวรีย์ชัยฯ ค่าโดยสารจะอยู่ที่ 65 บาท และหากเดินทางต่อไปจากอนุสาวรีย์ชัย จนถึงสถานีสุดท้ายเคหะสมุทรปราการ ค่าโดยสารสูงสุดเพียง 65 บาทเท่านั้น
- เดินทางจาก เคหะสมุทรปราการ เริ่มต้นที่ 15 บาท สถานีต่อไปเพิ่มสถานีละ 3 บาท และเมื่อเข้าเส้นทางหลักที่แบริ่ง ค่าโดยสารสถานีละ 4 บาท ซึ่งถ้าเดินทางจนถึงสถานีอโศก ค่าโดยสารจะอยู่ที่ 65 บาท และหากเดินทางต่อไปจากอโศก จนถึงสถานีสุดท้ายคูคตค่าโดยสารสูงสุดก็เพียง 65 บาทเท่านั้นเช่นกัน
เปรียบเทียบความคุ้มค่าในการเดินทาง สมมุติ เดินทางจาก คูคต จ.ปทุมธานี ไป เคหะสมุทรปราการ จ. สมุทรปราการ
-รถไฟฟ้าสายสีเขียว ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 65 บาท
-รถเมล์ ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงครึ่ง ค่าโดยสาร 70 บาท
-รถแท็กซี่ ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 421 บาท
รถไฟฟ้าเมื่อเทียบกับรถเมล์จะใช้เวลาในการเดินทางน้อยกว่า และเมื่อเทียบกับรถแท็กซี่จะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า 6 เท่า ที่สำคัญรถไฟฟ้ามีความแน่นอนของเวลาในการเดินทางมากกว่ารถเมล์และรถแท็กซี่
กทม. ยืนยันจะพยายามทำให้ระบบการขนส่งมวลชนสาธารณะเป็นระบบที่ดีและถูกที่สุด เพื่อให้คน กทม. ได้ใช้บริการ “รถไฟฟ้าBTS” หรือรถสาธารณะอื่นได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และราคาถูกที่สุด