คมนาคมเร่งเปิดพีพีพีศูนย์ขนส่งชายแดน จ.นครพนม คาดประกาศเชิญชวน เม.ย.นี้
กรมการขนส่งทางบก เผยบอร์ดบีโอไออนุมัติในหลักการเปิดพีพีพี โครงการศูนย์การขนส่งชายแดน จ.นครพนม คมนาคมสั่งเร่งออกประกาศเชิญชวนภายใน เม.ย.นี้
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่มีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม มีวาระการพิจารณาการขออนุมัติในหลักการส่งเสริมการลงทุนแก่เอกชนผู้ร่วมลงทุน โครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม ของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กระทรวงคมนาคม โดยบอร์ดบีโอไอได้อนุมัติในหลักการให้การส่งเสริมแก่เอกชนที่จะร่วมลงทุนโครงการดังกล่าวใน 3 ประเภทกิจการ ได้แก่
- กิจการสถานที่ตรวจปล่อยและบรรจุสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์เพื่อการส่งออก หรือโรงพักสินค้าเพื่อตรวจปล่อยของขาเข้าและบรรจุของขาออกที่ขนส่งโดยระบบคอนเทนเนอร์นอกเขตท่าเทียบเรือ (รพท.) (Inland Container Depot : ICD)
- กิจการศูนย์กระจายสินค้าด้วยระบบที่ทันสมัย (Distribution Center : DC)
- กิจการพัฒนาอาคารสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและ/หรือคลังสินค้า
ซึ่งเอกชนที่จะเข้าร่วมทุนกับกรมการขนส่งทางบกในรูปแบบ Public Private Partnership (PPP) ตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 มีสิทธิ์ที่จะขอรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามเงื่อนไขของแต่ละกิจการตามที่บีโอไอกำหนด อาทิ การยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร และการได้รับสิทธิและประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
โดยพื้นที่โครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เอกชนมีสิทธิที่จะขอรับการยกเว้นและลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลรวมสูงสุดถึง 13 ปี ซึ่งจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้เอกชนมีความสนใจที่จะเข้าร่วมลงทุนภายในโครงการมากยิ่งขึ้น โดยกรมการขนส่งทางบกจะได้กำหนดเงื่อนไขและรายละเอียดต่างๆ ที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI ไว้ในประกาศเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมลงทุนต่อไป
ทั้งนี้ โครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม จัดเป็นหนึ่งในโครงการตามแผนการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้า (Truck Terminal) ของกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ตั้งอยู่ที่ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม บนเนื้อที่กว่า 121 ไร่ ซึ่งจะทำหน้าที่รองรับการขนส่งสินค้าทางถนนระหว่างประเทศบนเส้นทางสาย R12 เชื่อมต่อการขนส่งระหว่างไทย - สปป.ลาว - เวียดนาม - จีนตอนใต้ ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) รวมถึงรองรับการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่ง (Modal Shift) ระหว่างทางถนนกับทางราง ผ่านแนวการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-นครพนม ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ในอนาคตอีกด้วย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และสนับสนุนนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาล
นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวด้วยว่า ตนได้เน้นย้ำให้กรมการขนส่งทางบก เร่งรัดดำเนินโครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนมให้เป็นไปตามแผนและดำเนินการตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน โดยปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างกระบวนการเวนคืนที่ดิน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2564
ในส่วนของกระบวนการ PPP คาดการณ์ว่าจะสามารถออกประกาศเชิญชวนเอกชนที่สนใจเข้าร่วมลงทุนได้ในเดือนเมษายน 2564 และลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนได้ในช่วงปลายปี 2564 ก่อนเริ่มกระบวนการก่อสร้าง ซึ่งมีวงเงินลงทุนกว่า 846 ล้านบาทต่อไป ซึ่งจะใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 3 ปี และมีแผนเปิดให้บริการในปี 2568 ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ อีกทั้งช่วยอำนวยประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบโลจิสติกส์เชิงบูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพของประเทศไทยในระยะยาวอย่างยั่งยืน