SINGER ปักธง ดันพอร์ตสินเชื่อแตะหมื่นล้านปีนี้ จ่อดันลูกเข้าตลท.กลางปี65
ซิงเกอร์เปิดแผนธุรกิจปี 64 ตั้งเป้าโตพอร์ตสินเชื่อโตก้าวกระโดด 50% แตะ 1 หมื่นล้าน ขณะที่คาดรายได้โต 25% หลังเร่งรุกขยายช่องทางขายผ่านออนไลน์เพิ่ม พร้อมปักธงขยายสาขารายย่อยแฟรนไชส์เพิ่มเท่าตัวเป็น 4 พันร้านค้า พร้อมดันบริษัทลูกเข้าตลาดกลางปี 65
นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการสินเชื่อ และจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ซิงเกอร์ กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานของซิงเกอร์ที่ผ่านมาถือว่า ผลงานเทิร์นอะราวด์ต่อเนื่อง โดยคาดว่าปี 2564 ผลงานดำเนินงานน่าจะเติบโตขึ้นต่อ ด้านพอร์ตสินเชื่อ ที่คาดว่าปีนี้จะเติบโตก้าวกระโดด 50% หรือมีสินเชื่อแตะระดับ 10,000 ล้านบาท หากเทียบกับปีก่อนที่พอร์ตสินเชื่ออยู่เพียง 6,000 ล้านบาทเท่านั้น
ซึ่งมาจาก กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังคงอยู่ระดับที่ดี และสามารถรักษาการเติบโตได้ต่อเนื่อง แม้จะเจอโควิด-19 รอบใหม่ ในช่วงต้นปี ส่วนหนึ่งน่าจะมาจาก นโยบายและการเยียวยาของภาครัฐผ่านคนละครึ่ง และมาตรการเยียวยาต่างๆ ที่ลงไปสู่ระดับชุมชน ทำให้มีกำลังซื้อกลุ่มฐานรากมีเพิ่มขึ้น ดังนั้นยอดขายในชุมชนยังอยู่ในระดับดีต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ปีนี้ บริษัทตั้งเป้าเติบโตด้านรายได้เพิ่มขึ้นราว 25% หากเทียบกับปีก่อน จากการขยายฐานลูกค้าที่มีความหลากหลายมากขึ้น และผลิตภัณฑ์ที่จะออกมาเพิ่มเติม และการรุกการให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ ที่จะจะช่วยเพิ่มรายได้และยอดขายให้กับบริษัทได้มากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ตั้งเป้าจะขยายสาขาแฟรนไชส์ หรือร้านค้ารายย่อย ครอบคลุมทุกตำบล ทุกอำเภอทั่วประเทศเท่าตัวในปีนี้ เป็น 4,000 ร้านค้า จากสิ้นปี ที่ผ่านมาที่มีร้านค้ารายย่อยอยู่ที่ 2,000 ร้านค้า
“เราเชื่อว่าทิศทางธุรกิจจะมีโอกาสเติบโตมากขึ้น และมีศักยภาพในการทำกำไรสูงขึ้น จากการเพิ่มฐานลูกค้าและใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ปีนี้เราจะเน้นทำออนไลน์เข้ามาช่วยหนุนยอดขายมากขึ้น โดยเปิดตัว Line Singer ซึ่งจะทำให้สามารถให้บริการและขายสินค้าได้มากขึ้น โดยคาดจะใช้งบลงทุนใหม่ราว 50 ล้านบาทปีนี้"
สำหรับคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ หรือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ปัจจุบันเอ็นพีแอลอยู่ที่ระดับ 5.2% ณ ไตรมาส 3 ปี 2563 ที่ผ่านมา และคาดไตรมาส4ที่ผ่านมาเอ็นพีแอลมีแนวโน้มดีขึ้น
และเชื่อว่า ปีนี้เอ็นพีแอลมีแนวโน้มมีคุณภาพที่ดีเพิ่มขึ้น เนื่องจาก บริษัทจะมีการนำเทคโนโลยีใหม่ เข้ามาใช้ในกระบวนการคัดกรองลูกค้า ทำให้มีโอกาสที่จะได้ลูกค้าที่ดีเข้ามาในพอร์ตมากขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้บริษัทมีแผนจะนำ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่ดำเนินธุรกิจด้านสินเชื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินเชื่อรถทำเงิน (car for cash) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงกลางปี 2565 ด้วย