โออิชิ ปรับแผนธุรกิจ เร่งฟื้นยอดขายสู้โควิด

นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม และสร้างความท้าทายใหม่ๆ ให้กับทุกธุรกิจและทุกภาคส่วน ปัจจัยดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท จึงได้มีการปรับกลยุทธ์และแผนงานต่างๆ เพื่อเร่งสร้างรายได้ให้ฟื้นตัวกลับาได้มากที่สุด ให้ควาสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุน ประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ควบคุมการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ด้านผลประกอบการของบริษัทในปี 2563(ปีงบประมาณ ต.ค. 62 - ก.ย. 63) มีรายได้รวม 11,007 ล้านบาท ลดลง 19.2% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิ 1,066 ล้านบาท ลดลง 13.3 % เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เมื่อเทียบกับกลุ่มบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน บริษัทยังสามารถสร้างผลกำไรได้อย่างน่าพอใจ

ขณะที่ภาพรวมธุรกิจเครื่องดื่ม ชาเขียวโออิชิ ยังครองความเป็นผู้นำตลาด รายงานจากนีลเส็น ระบุ ณ สิ้นเดือนก.ย.63 มีส่วนแบ่งทางการตลาด 48% ทิ้งห่าคู่แข่งอย่างชัดเจน ส่วนธุรกิจร้านอาหารได้ปรับแผนให้เหมาะกับสถานการณ์และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้เร่งขยายช่องทางการขายแบบซื้อกลับบ้านและเดลิเวอรี่ เพราะมีอัตราการเติบโตสูง

ส่วนแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในอนาคต บริษัทได้ปรับแผนกลยุทธ์ของธุรกิจให้เหมาะสม นำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาพัฒนาทั้งผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบรับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค และศึกษาโอกาสการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ต่อยอดความแข็งแกร่งของธุรกิจที่มีอยู่ เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

“บริษัทมีการปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์รองรับวิถีชีวิตปกติใหม่หรือ New Normal มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งหันมาให้ความสำคัญด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเพื่อผลักดันให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคงแข็งแกร่งและก้าวข้ามทุกสถานการณ์ ที่สำคัญยังสะท้อนถึงศักยภาพผู้นำและความเป็นบริษัทที่มั่นคงและยั่งยืน พร้อมเดินหน้าสู่อนาคตตามแผนวิสัยทัศน์ 2025”

  

นางเจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บมจ.โออิชิ กรุ๊ป กล่าวว่า ปัจจัยการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ตลาดชาพร้อมดื่มภายในประเทศหดตัว 9.1% แม้จะกระทบยอดขายธุรกิจเครื่องดื่มบ้าง แต่บริษัทยังสามารถประคองสถานการณ์และสร้างผลกำไรที่เติบโตได้ จากการพัฒนาสินค้านวัตกรรม โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องดื่มชาเขียวเพื่อสุขภาพ ประกอบกับทำการตลาด จัดโปรโมชั่นรูปแบบใหม่ๆ การกระจายสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ ได้ครอบคลุมมากขึ้น การบริหารจัดการงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเดินหน้าขยายตลาดส่งออก

นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจร้านอาหาร บมจ.โออิชิ กรุ๊ป กล่าวว่า ปี 2563 ธุรกิจอาหารเน้นปรับตัวรับมือกับผลกระทบจากโควิด-19 และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงและซับซ้อนมากขึ้น บริษัทนำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาต่อยอดสร้างสรรค์บริการใหม่ ๆ ในร้านอาหารญี่ปุ่นโออิชิ พัฒนาช่องทางขาย-เดลิเวอรี่ และซื้อกลับบ้านมากขึ้น

นอกจากนี้ มีการปรับรูปแบบร้านให้เหมาะสมและเข้ากับสภาพแวดล้อมทางการตลาดในปัจจุบัน เน้นเคลื่อนเข้าสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมและรวดเร็วหรือ Speed to Market โดยการขยายธุรกิจและเปิดตัวร้านอาหารรูปแบบใหม่ เช่น โออิชิ ทู โก, โออิชิ ฟู้ด ทรัค” รวมไปถึงร้านอาหารประเภทไฮบริดอย่าง โออิชิ ราเมน X คาคาชิ บริการ 24 ชั่วโมง สาขาแรก ที่ เดอะ สตรีท รัชดา มุ่งพัฒนาสูตรอาหารเพื่อสุขภาพ และนำเสนอเมนูเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่โออิชิ คิทเช่น เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภครักสุขภาพมากขึ้น รวมถึงการต่อยอดสู่ตลาดพรีเมียม เปิดตัวร้านอาหารญี่ปุ่นซาคาเอะ จับกลุ่มเป้าหมายระดับบนและกลางซึ่งมีกำลังซื้อสูง

ด้านนางสาวเมขลา เนติโพธิ์ รองกรรมการผู้จัดการสายงานธุรกิจอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่า มาตรการสกัดโรคระบาดด้วยการล็อคดาวน์ เป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อการบริโภคและการเติบโตของตลาดอาหารสำเร็จรูปแช่เย็นและแช่แข็ง เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าตอบสนองความสะดวกในการบริโภค บริษัทจึงเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมทาน ภายใต้ตราสินค้า “โออิชิ อีทโตะ” เสิร์ฟกลุ่มเป้าหมาย