'ผู้ประท้วงดับ 2 ราย' ยูเอ็นประณามรัฐบาลทหารเมียนมา
การเสียชีวิตของผู้ประท้วง 2 รายทำให้ยูเอ็นต้องประณามรัฐบาลทหารเมียนมารอบใหม่
การประท้วงโดยสงบของมหาชนเมียนมาถูกทางการใช้ยุทธวิธีรุนแรงขึ้นทุกที วานนี้ (20 ก.พ.) ถือเป็นวันนองเลือดมากที่สุดนับตั้งแต่ประท้วงมากว่า 2 สัปดาห์ เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยิงปืนเข้าใส่ผู้ชุมนุมที่เมืองมัณฑะเลย์ ผู้คนวิ่งหนีกระเจิงด้วยความหวาดกลัว เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินเผยว่า วัยรุ่นถูกเสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บอีกราว 30 คน กว่าครึ่งบาดเจ็บเพราะถูกยิงด้วยกระสุนจริง
วันนี้ (21 ก.พ.) นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แถลงการณ์ประณามรัฐบาลทหารระบุ“การใช้กำลังรุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิต การข่มขู่และคุกคามต่อผู้ชุมนุมอย่างสันติเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้”
ผู้เสียชีวิตอีกรายคือ น.ส.มยา ต้วย ต้วย ไข่ ผู้เพิ่งอายุครบ 20 ปีเมื่อวันพฤหัสบดี (18 ก.พ.) ที่ผ่านมา แต่ต้องลาโลกนี้ไปในวันศุกร์ (19 ก.พ.) หลังถูกยิงที่ศีรษะจากการประท้วงเมื่อสัปดาห์ก่อน ได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนไม่ได้สติที่โรงพยาบาลมาตั้งแต่นั้น และกลายเป็นสัญลักษณ์ของการประท้วงต้านรัฐบาลทหาร
ขณะนี้รัฐบาลทหารเมียนมาถูกนานาชาติประณามอย่างหนัก สหรัฐ อังกฤษ และแคนาดาต่างประกาศคว่ำบาตรนายพลระดับสูงที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยึดอำนาจ โดยวันพรุ่งนี้ (22 ก.พ.) รัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรป (อียู) จะประชุมหารือมาตรการตอบโต้เมียนมาของอียู
นายโจเซฟ บอร์เรลล์ ประธานฝ่ายนโยบายต่างประเทศอียูเรียกร้องให้กองกำลังฝ่ายความมั่นคงของเมียนมา ยุติการใช้ความรุนแรงกับพลเรือน หลังเกิดเหตุที่มัณฑะเลย์วานนี้