บอร์ด อคส.โวย ไม่รู้เรื่องจัดซื้อถุงมือยางฉาว

บอร์ด อคส.โวย ไม่รู้เรื่องจัดซื้อถุงมือยางฉาว

ปธ.บอรด์อคส.ปฏิเสธ ร่วมทุจริตชื้อถุงมือยางแสนล้าน โยนฝ่ายกม.ดูรายละเอียดอภิปราย ด้านรองประธานบอร์ด ไม่พอใจ ชี้ ทำเสียหาย อัด คนบ้า คนคุ้มคลั่ง ที่จัดซื้อถุงมือยางแสนล้าน โดยไม่ผ่านบอร์ด  

นายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า(อคส.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมบอร์ดนัดแรกหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยนายสุชาติ ปฎิเสธไม่มีส่วนร่วมหรือเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อถุงมือยางมูลค่า1.12 แสนล้านบาท ะตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสัญญาซื้อขาย เป็นเรื่องของฝ่ายปฏิบัติ ที่จะดำเนินการ ซึ่งนโยบายของตนเอง ที่ให้กับอคส.มี 3 ข้อ คือ พัฒนาบุคลากร พัฒนาองค์กร และหารายได้ให้กับองค์กร  และขณะนี้ได้ให้ฝ่ายกฎหมายไปดูรายละเอียดของเนื้อหาที่ฝ่ายค้านพาดพิง ทั้งในเรื่องของคลิปเสียงการประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 63 และผังความเชื่อมโยงการจัดซื้อถุงมือยาง ที่นำไปเผยแพร่กลางที่ประชุมสภา

“ ผมไม่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อถุงมือยางครั้งนี้ เป็นเรื่องที่ฝ่ายปฏิบัติดำเนินการ และไม่รู้ว่า เป็นไอเดียของใคร เพราะที่ผ่านมา มีหลายคนเสนอไอเดียในการจัดหารายได้ให้องค์กรเยอะมาก ใครมีอะไรก็เสนอเข้ามา ตอนนี้ ผมคิดอย่างเดียวว่า จะเอาเงิน 2,000 ล้านบาท ที่อคส.จ่ายเป็นค่ามัดจำถุงมือยางไปแล้ว มาคืนได้อย่างไร” 

เมื่อถามว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เรียกไปชี้แจงหรืไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่ได้เรียกและยังไม่ได้คุยกัน  ส่วนที่มีการกดดันให้ลาออกนั้นนายสุชาติไม่ตอบ

               

ด้านพล.ต.ดิเรก  ดีประเสริฐ รองประธานบอร์ดอคส. กล่าวว่า  การทุจริตการจัดซื้อถุงมือยางสร้างความเสื่อมเสียให้กับบอร์ดอคส.คนอื่นมาก ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากบุคคลเพียง 2 คน  ทั้งๆ ที่เป็นโครงการใหญ่ มีมูลค่าซื้อขายนับแสนล้านบาท และยังมีการถอนเงินออกจากบัญชีของอคส.ไปจ่ายเงินมัดจำสินค้าถึง 2,000 ล้านบาท แต่พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ รักษาการผู้อำนวยการอคส. ซึ่งดำเนินการในเรื่องนี้ กลับไม่เสนอให้บอร์ดพิจารณา หรือแม้แต่รายงานให้บอร์ดได้รับทราบก็ไม่มี บอร์ดเพิ่งทราบเรื่อง ก็เมื่อเป็นข่าวแล้ว 

“ เงิน2,000 ล้านบาทไม่ใช้เงิน200บาท ที่จะอนุมัติกันง่าย เหมือนเด็กเล่นขายของ คนบ้า คนคุ้มคลั่งเท่านั้นล่ะ ที่กล้าทำ คนสติดี ไม่มีใครทำกันหรอก  เรื่องเก่ายังสะสางไม่หมด นี่มีเรื่องใหม่มาอีกแล้ว "

พล.ต..ดิเรก กล่าวว่า กรณีนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับบอร์ดทุกคนด้วย เพราะบอร์ดไม่ได้รู้เห็นอะไรด้วยเลย  ซึ่งตนเป็นทหาร และเป็นผู้บัญชาการโรงเรียนเสนาธิการทหารบก เป็นอาจารย์สอนคน ไม่กล้าทำเรื่องพวกนี้ หรือทำให้เกียรติประวัติของตนเองด่างพร้อยแน่นอน ที่สำคัญ เป็นรองประธานบอร์ดอคส.มาแล้ว 2 สมัย ตั้งแต่ปี 58 จนถึงปัจจุบัน ไม่เคยมีประวัติเสียหายเลย