คู่แข่ง Clubhouse !? ‘Facebook’ และ ‘Twitter’ ผุดฟีเจอร์ห้องแชตเสียง

หลังจากที่ Clubhouse ดังถล่มทลายเป็นที่นิยมจนสร้างปรากฎการณ์ไปทั่วโลก ล่าสุดบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Facebook และ Twitter เตรียมพัฒนาฟีเจอร์การสนทนาส่งสู้กับคลับเฮาส์แล้ว หากปล่อยออกมาให้ใช้ได้จริงจะต้องดาวน์โหลดแอพแยกไหม หรือแค่อัพเดทแอพหลักก็สามารถใช้ได้เลย กรุงเทพธุรกิจมีคำตอบให้ที่นี่

ล่าสุดทาง Twitter ก็ไม่น้อยหน้า ได้ออกฟีเจอร์ “Spaces” (สเปซ) ให้คนบางกลุ่มได้ทดลองใช้กันแล้วในต่างประเทศ โดยรูปร่างหน้าตาและการใช้งาน เรียกได้ว่า แทบจะคล้ายคลึงกับคลับเฮาส์เลยทีเดียว และข้อดีของฟีเจอร์นี้คือ ผู้ใช้สามารถใช้งานจากตัวแอพ ออริจินัลได้เลย

สำหรับฟังก์ชันในฟีเจอร์ Spaces หากมียูสเซอร์ไหนเปิด เซสชั่นห้องสนทนาอยู่ ก็สามารถกด Join this space ได้เลย อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถเลือกเปิดและปิดไมค์ของตนเองได้เหมือน ๆ กัน และหากต้องการที่จะร่วมเป็นผู้พูดในห้องก็สามารถกด Request ตรงปุ่มไมค์ที่อยู่ด้านล่างซ้ายของจอ คล้ายกับการกดยกมือเหมือนในแอพคลับเฮาส์เลย หากมีการพัฒนาอย่างสมบูรณ์แล้วคาดว่าคงจะได้ใช้กันทั่วโลกในเร็ว ๆ นี้

ขณะเดียวกัน ทาง Facebook ก่อนหน้านี้ก็ได้ออกฟังก์ชัน “Messenger Room” (เมสเซนเจอร์ รูม) มาให้ใช้สนทนาวิดีโอแบบกลุ่มมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ไม่ได้รับความนิยมขนาดนั้น เพราะลักษณะการใช้งานออกแบบมาให้เข้าใจยาก อีกทั้งหากจะใช้งานจะต้องโหลดแอพ Messenger Facebook แยก 

แต่ล่าสุดทาง New York Times ก็ได้รายงานว่า ทางเฟซบุ๊คกำลังพัฒนาฟังก์ชันการสนทนาให้ออกมาน่าสนใจเทียบเท่าคลับเฮาส์อยู่ อดใจรอดูอีกไม่นานได้เลย

ทางด้าน Clubhouse หลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการในมี.ค. 2563 ที่ผ่านมา และมีผู้ใช้งานแค่ 6 แสนราย ยอดผู้ใช้ทั่วโลกก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ล่าสุด ณ วันที่ 22 ก.พ. พุ่งทะลุ 10 ล้านรายแล้ว

ในส่วนของประเทศไทยเองก็เป็นที่นิยมถล่มทลายไม่แพ้ประเทศอื่นเช่นกัน โดยห้องสนทนามีความหลากหลายในเนื้อหาสาระมาก ตั้งแต่ การเมือง การลงทุน การศึกษา ความรัก เซ็กส์ ความเหลื่อมล้ำ ไปจนถึงเรื่องปัญหาชีวิต นับได้ว่าเป็นหนึ่งในช่องทางที่ทำให้ผู้คนออกมากล้าแสดงความคิดเห็นมากขึ้นผ่านการเป็น Moderator และผู้ร่วมถกเถียงสนทนา 

มาตามดูกันต่อว่าตลาดเทคโนโลยี Social Audio จะมีแนวโน้มความนิยมและอัตราการเติบโตมากน้อยแค่ไหน และจะสร้างปรากฎการณ์อะไรใหม่ๆ ที่น่าสนใจได้อีกในอนาคต 

อ้างอิง: Twitter, Backlinko, Mashable SE Asia, Social Media Today1, Social Media Today2, The New York Times