บอร์ดอคส.เดินหน้ากดดัน"สุชาติ"แสดงสปิริตลาออก

พล.ต.ดร.ดิเรก ดีประเสริฐ รองประธานกรรมการ คณะกรรมการ (บอร์ด) องค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรรมการบอร์ดอคส.ทุกคน ต้องการให้นายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานบอร์ดอคส.ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงสปิริต ภายหลังจากถูกพรรคฝ่ายค้านพาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท ในระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์  ทั้งนี้เพราะไม่ต้องการให้ภาพลักษณ์ และชื่อเสียงของบอร์ดทุกคนเสียหาย เพราะบอร์ทุกคน ไม่ทราบเรื่องการจัดซื้อถุงมือยางครั้งนี้เลย 

“การประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา บอร์ดทุกคน กดดันเยอะเหมือนกัน อยากให้นายสุชาติฉุกคิดได้ และมีสปิริต ที่จะไม่ให้บอร์ดคนอื่นได้รับผลกระทบโดยไม่เป็นธรรม เพราะบอร์ดไม่รู้เรื่องการจัดซื้อครั้งนี้เลย แต่เค้ายืนกรานไม่ออก เพราะการลาออกเท่ากับยอมรับว่าทุจริตจริง และยังบอกอีกว่า กลัวงานของอคส.ไม่เดิน ซึ่งผมก็บอกเค้าไปว่า ถ้าอย่างนั้นก็ให้ไปตัดสินใจเอาเอง เรื่องมาจนถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะห่วงงานอคส.อีกหรือ แต่บอร์ดจะรอฟังการตัดสินในของเค้า ผมมองว่า ข้อเสียอย่างหนึ่งของสังคมไทย คือ ตีความว่า การลาออกคือการยอมรับผิด แต่ประเทศพัฒนาแล้ว อย่าง ญี่ปุ่น เกาหลี การลาออก คือ การแสดงสปิริต เพื่อให้การถูกตรวจสอบโปร่งใส”  

อย่างไรก็ตาม หากนายสุชาติ ยังไม่ลาออก และในการประชุมบอร์ดครั้งต่อไปในเดือนมี.ค.64 นายสุชาติ ยังนั่งเป็นประธานอีก ก่อนการประชุม ตนคงต้องหารือกับบอร์ดนอกรอบ เพื่อหามาตรการกดดันต่อไป โดยบอร์ดทุกคนอาจตัดสินใจเดินออกจากห้องประชุม (วอล์กเอาท์) ทันที เพื่อแสดงการประท้วง ถ้ายังไม่ยอมลาออกอีก ก็จะใช้มาตรการอื่นๆ กดดันมากขึ้น แต่คงยังไม่ถึงขั้นยื่นหนังสือต่อนายจุรินทร์ เพื่อให้พิจารณาดำเนินการในเรื่องนี้ 

พล.ต.ดร.ดิเรก กล่าวว่า การจัดซื้อถุงมือยางครั้งนี้ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการอคส. และพรรคพวก ดำเนินการโดยพลการ ซึ่งจะมีนายสุชาติ เกี่ยวข้องตามที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่โครงการใหญ่ มูลค่ามหาศาลขนาดนี้ ต้องเสนอให้บอร์ดพิจารณา ไม่ใช่พูดว่า รายงานให้บอร์ดรับทราบแล้ว ก็ถือว่า บอร์ดทราบแล้ว ซึ่งถ้าบอร์ดรับทราบจริง ก็ยังดำเนินการไม่ได้ อคส.ต้องทำเป็นโครงการ และเสนอให้บอร์ดพิจารณา มีเป็นมติอย่างชัดเจน อย่างโครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือที่คลังสินค้าราษฎร์บูรณะของอคส. มีค่าดำเนินการ 9 ล้านบาท กว่าบอร์ดจะผ่านความเห็นชอบได้ ก็สอบถามอคส.อยู่นาน เชื่อว่า ถ้าโครงการซื้อถุงมือยาง เสนอให้บอร์ดพิจารณา ก็อาจไม่ผ่านความเห็นชอบก็ได้