เปิดแถลงการณ์กลุ่ม 'สร้างไทย' หนุนทุกฝ่ายผ่าทางตัน ร่าง 'รัฐธรรมนูญ' ฉบับปชช.
กลุ่ม "สร้างไทย" ออกแถลงการณ์ อัด ส.ว.-พลังประชารัฐ "สมคบคิด"ขวาง สสร. หนุนทุกฝ่ายผ่าทางตันร่างรัฐธรรมนูญฉบับ ปชช.
ผู้สื่อข่างรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มสร้างไทยได้ออกแถลงการณ์ กรณีการขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่ารัฐสภามีหน้าที่และอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ โดยมีเนื้อหาระบุว่า จากการที่ภาคประชาชนฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลเห็นพ้องร่วมกันว่า สมควรมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เป็นองค์กรยกร่างนั้น
ในที่สุดได้มีการเสนอร่างรัฐธรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมตรัฐสภาโดยให้มี สสร.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จำนวน 200 คน เพื่อจัดทำรัฐธรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งในที่สุดรัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบในวาระที่ 1 แต่มติเสียงข้างมากของรัฐสภา (สมาชิกวุฒิสภาเกือบทั้งหมดและ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ) กลับขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า รัฐสภามีอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และรัฐสภาได้ ลงมติเมื่อ 24 - 25 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมาผ่านวาระที่ 2 คงเหลือเพียงวาระที่ 3 ต้องรอไว้ 15 วันจึงจะลงมติได้
กลุ่มสร้างไทยขอเรียนให้พี่น้องประชาชนทราบว่า การที่รัฐสภาเสียงข้างมากขอให้ศาลรัฐธรมนูญวินิจฉัยประเด็นข้างต้นเป็นเรื่องแปลกประหลาด และส่อให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการสมคบคิด เพื่อทำให้การจัดทำรัฐธรมนูญฉบับใหม่โดย สสร.เป็นไปไม่ได้ ยิ่งศาลรัฐธรรมนูญขอความเห็นจากบุคคล 4 คน คือ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ นายสมคิดเลิศไพฑูรย์ และนายอุดม รัฐอมฤต ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีจุดยืนข้างฝ่ายประชาธิปไตยหรือไม่ ยิ่งทำให้เกิดความกังวลมากขึ้น
การที่รัฐสภาลงมติในวาระที่ 1 และวาระที่ 2 ไปแล้วย่อมแสดงให้เห็นว่ารัฐสภามั่นใจว่า มีอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยใช้ระบบ สสร.ซึ่งถ้าทุกอย่างเป็นไปตามปกติเมื่อผ่านวาระที่ 3 (จะมีการเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 17 - 18 มีนาคม 2564) จะไปสู่การทำประชามติ
หากผ่านประชามติจะมีการเลือก สสร. 200 คนโดยประชาชน เมื่อ สสร.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จ จะต้องทำประชามติอีกครั้งถ้าผ่านจึงทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงทรงพระปรมาภิไธย และจะมีการเลือกตั้งกันตามรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งถือเป็นฉบับประชาชนอย่างแท้จริงและจะเป็นฉบับแรกของประเทศไทยที่ประชาชนเป็นผู้สถาปนารัฐจะรรมนูญขึ้น ในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตย
จึงไม่มีเหตุผลและความหมาะสมเลยที่จะสมคบคิดกันหยุดยั้งการดำเนินการเช่นนี้ นอกจากต้องการจะปกป้องระบบเผด็จการอำนาจนิยมที่เกิดจากการรัฐประหารและการสืบทอดอำนาจเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ ศาลรัฐธรมนูญจึงควรที่จะวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวให้เสร็จสิ้นก่อนการลงมติในวาระที่ 3 และถ้าศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าศาลไม่มีอำนาจพิจารณาวินิจฉัย ก็จะทำให้ระบบรัฐสภาแข็งแรงขึ้น เพราะการก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญไม่ว่าจะแก้ไขเป็นรายมาตราหลายมาตราหรือจัดทำใหม่ทั้งฉบับภายใต้ข้อจำกัดของรัฐธรรมนูญเองเป็นอำนาจโดยเฉพาะของรัฐสภา หรือมิเช่นนั้นศาลรัฐธรมนูญก็ควรจะยืนยันว่าเป็นอำนาจของรัฐสภา
หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ารัฐสภาไม่มีอำนาจก่อนการลงมติวาระที่ 3 ฝ่ายค้านก็ต้องคิดให้ดีว่าจะผ่านร่างรัฐธรมนูญที่ไม่มี สสร.เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำวินิฉัยก่อนการลงมติดังกล่าว ฝ่ายค้านก็ควรหาวิธีการไม่ให้มีการลงมติ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่ารัฐสภามีอำนาจทำได้หรือไม่
หากฝ่ายค้านลงมติเห็นชอบวาระที่ 3 โดยยังไม่มีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรมนูญ และต่อมาศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าส่วนที่เกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย สสร.นั้นใช้ไม่ได้ เพราะรัฐสภาไม่มีอำนาจ ก็จะทำให้รัฐบาลโดยความร่วมมือกับ สว.สามารถแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรมนูญได้ทุกประเด็น เว้นแต่จะไม่ผ่านประชามติ
กลุ่มสร้างไทยจึงขอวิงวอนทุกฝ่ายได้ร่วมมือกัน ผ่าทางตันของประเทศเพื่อให้มีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่แท้จริง อย่าเอาแพ้ชนะกันในสิ่งที่ในที่สุดแล้วไม่มีใครชนะ แต่ทุกคนและประเทศแพ้หมด
กลุ่มสร้างไทย
1 มีนาคม 2564