ซันโทรี่ เป๊ปซี่ฯ ฟื้น“ทีพลัส” เขย่าชาพร้อมดื่ม
เครื่องดื่มแสนล้านเดือด!รับซัมเมอร์ ขาใหญ่จัดทัพสินค้าบุกตลาด ซันโทรี่ เป๊ปซี่ฯ เลือกระเบิดศึก "ชาพร้อมดื่ม" ฟื้นแบรนด์ "ทีพลัส" หวนคืนสังเวียน เทงบ 200 ล้านบาท สร้าง Brand Awareness ปูทางสู่การเกาะกลุ่ม "ผู้นำ"
เมื่อประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อน ย่อมได้เวลา “เครื่องดื่ม” จะประกาศศึกทำการตลาดกันเต็มสูบ เพื่อแย่งผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายให้มาดื่มสินค้า(Share of Throat) ไม่ว่าเครื่องดื่มนั้นจะหมวดหมู่ไหน เป็นน้ำอัดลม น้ำดื่ม ชาเขียวพร้อมดื่ม น้ำผลไม้ เครื่องดื่มชูกำลัง หรือกาแฟพร้อมดื่มฯ ก็ต้องขับเคี่ยวกันดุเดือด
ส่วนยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง “ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคฯ” แม้จะมีสินค้าในพอร์ตโฟลิโอมากมาย แต่ร้อนนี้บริษัทกลับเลือกปัดฝุ่นฟื้นการทำตลาดชาอู่หลงพร้อมดื่ม “ทีพลัส”(TEA+)ที่ห่างหายจากการทำกิจกรรมตลาดไปนาน 45 ปี เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนแปลงผู้ผลิตเครื่องดื่ม(Bottler)นั่นเอง
อชิต โจชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ให้เหตุผลถึงการทบทวนนำสินค้าแบรนด์ใดสินค้าหนึ่งกลับมาทำตลาด บริษัทจะพิจารณาจาก “โอกาส” ตลาดที่มาจากความต้องการของผู้บริโภค ปัจจุบันคนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ทำให้ “ทีพลัส” ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ “จุดแข็ง” ของบริษัทสำคัญมาก ในฐานะที่เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ทำตลาดชายาวนานกว่า 40 ปี จึงพร้อมเดินเกมรุกอีกครั้ง
“เรานำจุดแข็งของ 2 บริษัทมาต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจ โดยซันโทรี่มีพอร์ตโฟลิโอเครื่องดื่มมากมาย มีการพัฒนาวิจัยและสินค้าทำตลาดแข็งแกร่งในอาเซียน ส่วนเป๊ปซี่เป็นแบรนด์ระดับโลก แข็งแกร่งด้านการผลิต มีทีมงานที่มีประสิทธิภาพ ประกอบกับพันธกิจที่ต้องการสร้างความสุขให้ผู้บริโภคด้วยเครื่องดื่มที่ผู้บริโภครักมากสุดในไทย จึงมุ่งมั่นนำเสนอสิ่งดีๆแก่กลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะการโฟกัสเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ”
อชิต รับบทแม่ทัพซันโทรี่ เป๊ปซี่โคฯ ได้ 9 เดือน มองตลาดเครื่องดื่มไทยมีขนาดใหญ่มาก และการแข่งขันสูงตามไปด้วย ส่วนพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยเปิดใจลองสินค้าใหม่ๆ สอดคล้องกับบริษัทที่มีสินค้าในพอร์ตโฟลิโอหลากหลาย แม้ปัจจุบันน้ำอัดลมจะเป็นพอร์ตใหญ่ 80% มีชาพร้อมดื่ม น้ำเปล่า เครื่องดื่มเกลือแร่เสริสทัพ แต่ไม่พอ เพราะอนาคตมองศักยภาพตลาดในการทำตลาดกาแฟพร้อมดื่ม เครื่องดื่มชูกำลังแต่ยังไม่เห็นในปีนี้หรือปีหน้า
สำหรับภาพรวมตลาดเครื่องดื่มในปี 2563 มีมูลค่า 145,515 ล้านบาท หดตัว 6.4% ส่วนซันโทรี่ เป๊ปซีโคฯ โต 0.1% เพราะมีปัจจัยโควิด-19ส่งผลกระทบธุรกิจ แต่หากดูตลาดย้อนหลัง 4 ปี(2560-2563) จะพบว่าตลาดรวมมีการเติบโตเฉลี่ย 0.9% และซันโทรี่ เป๊ปซี่โคฯ โตเฉลี่ย 6.2% ขณะที่ตลาดชาพร้อมดื่มมีมูลค่า 11,000 ล้านบาท และมีสัดส่วนเพียง 7.6% เท่านั้น เมื่อเทียบกับเวียดนามที่ใหญ่กว่าไทย 2-3 เท่าตัว จึงมีโอกาสเติบโตต่อ
สมชัย เกตุชัยโกศล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด เผยผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทย 99% รู้จัก “ชาอู่หลง” เป็นอย่างดี แต่สินค้าที่มีในตลาดเน้นวางจำหน่ายไม่ได้สร้างการรับรู้แบรนด์นัก ทั้งนี้ การกลับมาทำตลาดของ “ทีพลัส” ซึ่งมีแต้มต่อแบรนด์เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว จึงทุ่มงบ 200 ล้านบาท ปูพรมสร้างการรับรู้แบรนด์อีกครั้ง เจาะทุกสื่อทั้งโฆษณาทางทีวี ออนไลน์ ลุยสื่อนอกบ้าน และแจกสินค้าตัวอย่างให้ชิม 1.6 ล้านขวด หวังให้เกิดการ “ลอง” หากผู้บริโภคสนใจจะกลับมา “ซื้อสินค้า” รวมถึงกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั้งร้านค้าทั่วไปและห้างค้าปลีกสมัยใหม่ต่างๆ
ทั้งนี้ ตลาดชาพร้อมดื่มหมื่นล้านบาทในไทย ส่วนใหญ่จะเป็นเกมของ “ชาเขียวพร้อมดื่ม” โดยที่ผ่านมาเติบโตจากโปรโมชั่นเป็นตัวขับเคลื่อนมากกว่าเป็นเพราะความต้องการและเทรนด์ผู้บริโภคสุขภาพ สุดท้ายจึงเห็นตลาดหดตัวต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดชาอู่หลงพร้อมดื่มยังมีขนาดเล็กจึงเชื่อว่าจะมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
“ชาอู่หลงพร้อมดื่มมี 2 แบรนด์ที่จำหน่าย ทีพลัสเป็นแบรนด์ที่ 3 เน้นสินค้าสูตรหวานน้อย ไม่มีน้ำตาล เพราะเติบโต 2 เท่าในช่วง 4 ปี ส่วนการกลับมาทำตลาดช่วงแรกเราต้องลงทุนเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภค ด้านระยะยาวเรามีเป้าหมายจะรั้งตำแหน่งเกาะติดผู้นำของตลาดชาพร้อมดื่ม”
เนื่องจากหน้าร้อนเป็นไฮซีซั่นตลาดเครื่องดื่ม คาดการณ์ปีนี้จะเห็นการแข่งขันดุเดือดมาก สร้างการเติบโต 10-15% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนมีมาตรการล็อกดาวน์เพราะโรคโควิด-19 ระบาดทำให้จัดกิจกรรมตลาดไม่ได้ ส่วนภาพรวมตลาดเครื่องดื่มปี 2564 คาดว่าจะโต 4-5% สูงกว่าการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)