‘Best CEO’ แนะสร้างNEW S-Curve หนุนธุรกิจฟื้นตัวหลังโควิด

ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) รางวัล BEST CEO กลุ่มธุรกิจการเงิน ปี 2020กล่าวว่า แบงก์ต้องเลือกโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืน โดยวางเป้าหมาย ความยั่งยืนของลูกค้า คือ ความยั่งยืนของแบงก์เช่นกัน พร้อมกันนี้ต้องมองหาเมกะเทรนด์ การลงทุนและความคุ้มครอง รวมถึงทำให้ดิจิทัลเกิดผลบวกต่อลูกค้า ด้วยการทรานฟอร์มองค์กรและหาพาร์ทเนอร์มีเชื่อมต่ออีโคซิสเต็มส์

ขณะเดียวกันบริบทใหม่ธุรกิจแบงก์จับมือร่วมกันสร้างอีโคซิสเต็มส์ด้วยกัน เพื่อเชื่อมต่อไปยังเรียลเซ็กเตอร์และรัฐบาล ทำให้ประเทศไทยสามารถเติบโตได้ไม่ต่ำกว่าศักยภาพในระยะยาว สิ่งที่แบงก์ควรจะไปต่อ คือ แบงก์ต้องช่วยซ่อมลูกค้า ทยอยตายอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่พังทั้งระบบ ไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจพัง ช่วยฟื้นฟู และช่วยกันรีฟอร์มประเทศ

“เราจะรอให้น้ำขึ้น ทุกอย่างจะฟื้นหลังวิกฤติ ไม่อยากให้มองเช่นนี้ ธุรกิจต้องมองว่า ใครเปลี่ยนตัวเองได้เร็ว ใครโฟกัสและทำได้ดี ในส่วนที่เศรษฐกิจฟื้นหลังวิกฤติจะยิ่งเป็นตัวเสริม แต่ใครเปลี่ยนตัวเองไม่ได้หรือโฟกัสไม่ดี การฟื้นตัวของเศรษฐกิจแทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย"

สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) รางวัล BEST CEO กลุ่มเทคโนโลยี ปี 2020 กล่าวว่า ในวิกฤติโควิด -19 ทุกธุรกิจไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ได้รับผลกระทบทั้งหมดมากน้อยแตกต่างกันไป อุตสาหกรรมโทรคมนาคมก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แม้อาจดูได้รับผลกระทบน้อย แต่อีกมุมหนึ่งโควิดเข้ามาทำให้องค์กรปรับสู่ดิจิทัลทรานฟอร์มเมชั่นได้เร็วขึ้น จะเข้ามาช่วยลดต้นทุน ดังนั้นในวิกฤติโควิดอยากให้ทุกองค์กร มองในมุมบวก ต้องรู้จักแสวงหาโอกาส นำดิจิทัลไรท์เซชั่น มาทำให้องค์กรดีขึ้น และเข้มแข็งขึ้น

สำหรับบริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัลเทคโนโลยี มีแผนการเตรียมตัวไว้อยู่แล้ว แต่โควิดช่วยทำให้แผนเร็วขึ้น เช่น เร่งประมูลคลื่น 5 จี เพิ่มเติมเข้ามา เพราะดิจิทัลเซอร์วิสเป็นในอนาคตที่จะเข้ามา สามารถนำเทคโนโลยีไปช่วยอุตสาหกรรมอื่นๆได้จริง

เอไอเอสยังโฟกัสธุรกิจเทเลคอมเป็นธุรกิจหลักจะรักษาความเป็นผู้นำได้ ซึ่งเติบโตมากกว่าจีดีพี ราว 1-2% และผลักดันธุรกิจ NEW s-Curve เพื่อสร้างการเติบโตในระยะกลาง ในปีนี้ยังมุ่งขยายเอไอเอสไฟเบอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์เซอร์วิส ไอซีทีและไอโอที

ที่สำคัญบริษัทยังมุ่งสร้าง “ดิจิทัลแพลตฟอร์ม” ให้ได้ นับเป็นความท้าทายอย่างมาก ซึ่งเราเริ่มมาพัฒนามาแล้วมากกว่า 10 ปี โดยวางเป้าหมายนำดิจิทัลแพลตฟอร์มเข้าไปช่วยเหลือพาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรมอื่นๆ และขอแบ่งส่วนแบ่งรายได้เพียง 10% ของรายได้ จะทำให้บริษัทสามารถสร้างการเติบโตในระยะยาวเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว จากปัจจุบันพบว่ามูลค่าอุตสาหกรรมอื่นๆมากว่าอุตสาหกรรมเทเลคอมถึง 13 เท่า

“ในยุคของการทำธุรกิจใหม่ ต้องคิดหาโมเดลธุรกิจใหม่ ต้องสร้างทักษะของคนแบบใหม่ และสร้างอีโคซิสเต็มส์ เชื่อมต่อกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ในรูปแบบบิซิเนสพาร์ทเนอร์กัน จะตอบโจทย์ได้สำเร็จและเติบโตเป็นเท่าตัวได้”

นอกจากนี้เราอยากเป็นปลาใหญ่ ช่วยปลาเล็กแหวกว่ายออกไปจากวิกฤติโควิดและคลื่นในโลก Globalization ที่จะเข้ามาอีกมาก

พงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) รางวัล BEST CEO กลุ่มทรัพยากร ปี 2020 กล่าวว่า ตอนนี้ทุกองค์กรกำลังวิ่งสู่หรือการปรับตัวทำงานรูปแบบใหม่ผ่านเทคโนโลยี ซึ่งโควิดเป็นจุดที่ทำให้บริษัทปรับตัวในเรื่องนี้ได้ทันที ซึ่งบริษัทพร้อมปรับเปลี่ยนได้ทันทีและขยายความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ถือเป็น NEW s-Curve คาดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า สำหรับธุรกิจที่ไม่ใช่การสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ต้องทำกำไร 20% ยังเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก พร้อมกันนี้ยังให้ความสำคัญ กับลดโลกร้อนและ ESG จะช่วยสร้างองค์กรยั่งยืนในอนาคต

ดังนั้นช่วงระยะสั้น ตั้งแต่โควิดเป็นต้นมา จะเห็นได้ว่า ถ้ามีโครงการที่บริษัทสามารถสร้างความสำเร็จได้ บริษัทพร้อมทำมาโดยตลอด น่าจะมีโครงการที่ออกมาได้รูปธรรมในระยะ 4-5 ปีข้างหน้า และยังมีการเตรียมโครงการเพื่อสำรวจระยะยาวไว้ด้วย

“ในช่วง 4-5 ปีบริษัทได้ทำดิจิทัลทรานฟอร์เมชั่นอย่างต่อเนื่อง และมีการบริหารสภาพคล่องที่ดี ทำให้ในวิกฤติครั้งนี้ ไม่มีความกังวลในการลงทุนสร้างการเติบโตต่อไป ซึ่งเทคโนโลยีเป็นพื้นฐานที่เราต้องนำมาประยุกต์ และต้องการพาร์ทเนอร์กับทุกภาคส่วน เดินไปกับทุกคนและช่วยสร้างประเทศให้เติบโตพัฒนาในเชิงดิจิทัลมากขึ้น”

ณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) รางวัล BEST CEO กลุ่มตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ปี 2020 กล่าวว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีโทรคมนาคม ได้รับผล กระทบทางอ้อมจากโควิด -19 ดังนั้นบริษัทเน้นการให้ความช่วยเหลือ เช่น สร้างความร่วมมือกับภาครัฐ ขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกล

อย่างไรก็ตามคาดว่านิวนอร์มอลล์หลังจากนี้ คงเห็นการเปลี่ยนแปลงในมุมเทคโนโลยี ในวิกฤติมีทั้งโอกาสและการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงโควิด มองว่ามาเป็นเวฟใหญ่ หลังจากนี้คงเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวฟย่อยๆตามมา

“โควิด-19 เสมือนเป็น Wake up call ช่วยปลุกเราจะต้องทำสิ่งต่างๆในภาวะวิกฤติ และมีการทบทวนโมเดลธุรกิจทำให้มีการมองอัตรากำไรไปในทิศทางดีขึ้น มองหา NEW s-Curve มุ่งเน้นการสร้าง “ดิจิทัลอินฟราสตักเจอร์” ในพื้นที่ห่างไกล ลดความเหลื่อมล้ำ"